วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568

นโยบายชิงเผา แมนๆ ไปเลย



แมนๆ ไปเลย !


ผู้บริหารระดับสูงท่านหนึ่งในกรมอุทยานสรุป เมื่อพูดถึง จะเอายังไงกับการชิงเผาภาครัฐภายในกรม สำหรับปีนี้

ผมชอบมากเลย แมนๆ ไปเลย ! เพราะมันหมายถึงการไม่ต้องมาหลบๆ แอบๆ กลัวกระแสสังคมด่าว่า เพราะสังคมประสานเสียงห้ามเผา ฝ่ายการเมืองรัฐบาลก็ต้องแสดงบทบาทสั่งห้ามเผา

เอาไงล่ะ กับผู้ปฏิบัติในพื้นที่ ซึ่งเผชิญแรงกดดันเล่นเอาเถิดกับแปลงเห็ด ต่อให้ทุ่มกำลังไปดับแค่ไหน ลับหลังไฟมาอีก

อธิบดีอรรถพล เป็นคนสั่งการเองให้ปีนี้ กรมอุทยานฯ ยกระดับการจัดการบริหารไฟแบบเปิด ให้มีแผน เปิดแผน เข้าระบบขออนุญาตตรงจุดไหนพิกัดไหนจะเผา ทำป้ายบอกชาวบ้าน แล้วก็แจ้งรายละเอียดแผนการเผาไปยังวอร์รูมผู้ว่าฯ

ต้องดูอากาศ ย่อยแปลง ดับจบ

นี่คือหมุดหมายการเปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการไฟอย่างมีนัย ในเชิงนโยบายฝ่ายป่า

เพราะก่อนหน้าเปิดบ้าง ไม่เปิดบ้าง หรือทำแต่ไม่ครบสูตร คือ ลืมนึกถึงผลกระทบ... การเน้นย้ำเรื่องชิงเผาได้ แต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบ และเอาที่จำเป็น เกินกว่านั้นห้าม เป็นเงื่อนไขควบคู่มา

ถ้าจำได้อธิบดีอรรถถพล เคยสั่งอุทยานทับลานหยุดปฏิบัติการชิงเผาเพื่อให้มีหญ้าเลี้ยงช้าง เพราะตอนนั้นอากาศกรุงเทพไม่ดีลมพัดจากตะวันออกเข้ามา มั
นหมายถึงอะไร ? ก็คือชิงเผาได้ แต่ต้องดูจังหวะ และผลกระทบ

ที่จริงแล้ว หากไม่มีความเสี่ยงกับการต่อกรกับชาวบ้านลอบเผาเอาของป่าอันเป็นความเสี่ยงใหญ่สุด บรรดาความจำเป็นของการชิงเผาของกรมอุทยานฯ อื่นๆ มีไม่มาก เช่น ในปีแล้งจัดควรมีการทำแนวดำระหว่างป่าผลัดใบกับป่าดิบ ที่หากไฟเข้าจะเสียหายเยอะ หรือพื้นที่สะสมเชื้อเพลิงสูงที่เสี่ยงกับการลามเข้าจุดอื่นที่ดับยาก

ก็ต้องเอามาพูดกันตรงๆ บนโต๊ะ แบบแมนๆ กันไปว่า ไฟชาวบ้านในเขตป่ายังไงก็มี มันหนีไม่พ้น กำลังเจ้าหน้าที่ไม่พอไปยืนเฝ้าทั้งวันทั้งคืน ก็ต้องมีการจัดการร่วมกัน แต่ปีนี้ เน้นว่า ต้องเป็นแปลงสำหรับชาวบ้านในชุมชนนั้นจริงๆ เอาเท่าที่สมควรแก่เหตุ แปลงที่ชาวบ้านอำเภออื่นจังหวัดอื่นยกมาเป็นคาราวาน คราดเห็ดขึ้นรถกระบะกลับไปต้องไม่มี
คือลักษณะอีแบบนี้มันมีอยู่จริงๆ ก็ให้มันชัดกันไปว่าห้ามเด็ดขาด
 มหกรรมมากันข้ามจังหวัดมาเก็บเห็ด ป่าโม่งเห็ดแปลงที่ว่าจึงมีไฟลอบเผาไม่เว้น เอากันจนกระทั่งไหม้หมดทั้งป่านั่นแหละ และต้องเอามาพูดบนโต๊ะว่าชาวบ้านลอบเผามีอยู่จริงๆ และหากไม่มีการจัดการ Demand อันไม่จำกัดจะ 10 หายยิ่งกว่า อย่าไปถามปิศาจขี้โลภเพราะมันให้เผาให้หมดป่า มากเท่าไหร่ยิ่งดี ต้องขีดวงพอประมาณแค่นี้พอถ้าไม่ฟังเผาเพิ่มก็ปิดป่านะ


เท่าไหร่ แค่ไหน ที่มันเหมาะสม และไม่กระทบกับสังคมโดยรวม เป็นโจทย์ที่ยากมาก

ขีดเส้นใต้ไว้เลย เพราะนี่คือคีย์เวิร์ดของการแก้ปัญหาไฟในป่า ที่คงจะยังรุงรังต่อไปอีกพอสมควร

การเปิดโปร่ง ยอมรับว่ามันต้องมี ไม่ต้องแอบ เดินเข้าหาไปคุยกัน เอาแค่นี้พอนะ กับฝ่ายเผา และบอกกล่าวฝ่ายดมฝุ่นให้เข้าใจ เป็นงานที่ยากทีเดียว กับความรับรู้ความเข้าใจในวงกว้าง ในโลกแห่ง conflict of interest ที่กว้างใหญ่

เชื่อไหม ที่ผ่านๆ มา ปฏิบัติการเกี่ยวไฟป่านั้่น เป็นเรื่องลึกลับปกปิดกันทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายป่าไม้ ฝ่ายชาวบ้าน ฝ่ายปลัดอำเภอ เลี่ยงบาลีศรีธนนชัยกันทุกฝ่าย เรื่องชิงเผาก็เรื่อง เรื่องปฏิบัติการก็อีกเรื่อง

อย่างฝ่ายป่านั้น ในสมัยก่อน หัวหน้าสถานีไฟ กับ หัวหน้าอุทยาน บางทีไม่คุยกันนะครับ การเมืองกรมนี้แรง หัวหน้าใหญ่คนละขั้วเขาก็คอนเวิร์ส พอฤดูไฟมาที สถานีไฟมีคนแค่ไม่ถึง 30 คน จะดูแลป่า 4-5 แสนไร่หมดได้ไง เอาแค่ 2.5 แสนขีดวง แล้วก็ใช้วิธีเผาจุดเสี่ยงให้จบ ๆ เพื่อไม่ต้องพะวง

ไฟชิงเผาเองไม่บอกใครนี่ประจำ.... เคยมีนะครับ สี่ห้าปีก่อน บางจังหวัดทำกันข้ามคืนไหม้ลามสัปดาห์หนึ่งกว่าจะจบ ผู้ว่าฯอยู่ศาลากลางไม่รู้ว่าชิงเผา เห็นไฟไหม้ใหญ่ถามไปถามมา อ้าว ป่าไม้ชิงเผา นี่จบแล้วครับ ต้องเอามารายงานเป็นข่าวในปชส.จังหวัด ว่า นี่แค่บริหารไฟจบแล้ว สบายแล้ว คำสั่งห้ามเผาเด็ดขาดของจังหวัดเราจากนี้ จะสวยงาม

ผลงานที่กรมอุทยานทำได้ดีในระยะ 2 ปีมานี่ เพราะการไปปรับโครงสร้างระบบปฎิบัติงาน ให้มีซีอีโอ.ป่า ให้ทุกหน่วยมาร่วมรับผิดชอบงานไฟป่า

พลังก็มีเพิ่มขึ้น นั่นคือการปรับจูนจัดทัพภายใน

ส่วนปีนี้ สั่งให้เปิดโปร่ง เข้าระบบ ผมถือว่า กล้าหาญมากนะ เพราะต้องไปเผชิญหน้าคุยกับ ฝ่ายมหาดไทย ที่ต้องรองรับนโยบายฝ่ายการเมืองมา

ส่วนมหาดไทยในพื้นที่เองก็หลิ่วตาให้ชาวบ้านเผาแปลงเกษตร รับคำสั่งเจ้านายกรุงเทพมาอย่าง ปฏิบัติในพื้นที่อีกอย่าง หลายจังหวัดทำแบบนี้ เจ้านายกรุงเทพไม่เห็นจุดความร้อน ชาวบ้านได้เผา คนดมไม่รู้ ไม่ด่า ฯลฯ

ที่จริงฝ่ายประจำมหาดไทยก็ควรแมนๆ บ้าง ปีไหนไม่มีกำลังช่วยชาวบ้านไถกลบ จำเป็นต้องให้เขาเผา มหาดไทยก็ควรประกาศเปิดไปเลยว่า ตรงนี้ให้จัดการเผาให้จบๆ ดูทางลม ดูค่าอากาศ แล้วก็แอ่นอกรับผิดชอบปฏิบัติการนี้ หากลามหากอากาศไม่ดี

เราอยู่ในระบบบริหารแบบลิงหลอกเจ้ามานาน จนชิน ระบบที่รัฐหลิ่วตาให้กับการลอบเผา พอเกิดผลกระทบ ทุกฝ่ายลอยนวล ยกเว้นคนดมที่ซวยซ้ำซาก

ขอบคุณที่เริ่มมีการปฏิวัติแบบแมนๆ ของกรม ... ซึ่งลึกๆ ยังแอบกลัวไม่รู้จะสัมฤทธิ์ถึงฝ่ายปฏิบัติในพื้นที่แค่ไหน เพราะปกติพอกุมภาก็เอาไฟจ่อ ไม่บอกกล่าวใคร เคยชินแบบนี้กันมานาน จังหวัดโซนกลางใครห้ามก็ไม่ฟัง กูเคยทำงี้มา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น