วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ว่าด้วย คริสตสมภพ และความตายของเยซู




วันคริสตมาส สถาปนาขึ้นภายหลัง แบบเดียวกับรัชกาลที่ 4 สถาปนาวันมาฆบูชาเป็นวันสำคัญของเถรวาทสยาม มาจากแนวคิดการให้ความสำคัญกับ "วันเกิด" birthday ของพระเยซู ท่านจึงคำนวนเอา ประมาณว่าตกฟากช่วงเดือนฤดูหนาว ดูท้องฟ้าแล้ว เหมายัน พอดี


วันสำคัญในอารยธรรมมนุษยชาติมักจะเกิดจากท่านดูท้องฟ้าดวงดาวปฏิทิน เพราะเหมายัน เป็นวันสำคัญหมุดหมายฤดูกาลของโรมมาก่อน คริสต์ที่มาสวมกับโรม จึงจิ้มวันเกิดพระเยซู สวมไปกับวันสำคัญโรมเดิม
แบบเดียวกับพุทธศาสนาที่มักมีวันสำคัญของพระพุทธเจ้าตรงกับคืนเดือนเพ็ญนั่นแหละ เพราะฮินดูมีหมุดหมายวันสำคัญเมื่อพระจันทร์เสวยวิสาขฤกษ์ มาฆฤกษ์ อะไรอยู่ก่อนหน้า เวลานัดหมายกันนานๆ ไปเจอกันที่ไหนในคืนวันเพ็ญ มันนัดง่าย ดังนั้นการที่สงฆ์จะไปชุมนุมกันในคืนเดือนเพ็ญก็สมเหตุสมผลดี

วันเกิด เป็นวันสำคัญเชิงวัฒนธรรมของมนุษยชาติแทบทุกอารยธรรมไปแล้ว

ทำไมมนุษย์จึงสนใจวันเกิด ? อันนี้เริ่มจากระบบปฏิทินก่อน แล้วเกิดระบบโหราศาสตร์ความเชื่อ ควบคู่กัน เพราะมนุษย์ใกล้ชิดกับพระเจ้าทั้งหลายการดลบันดาลต่างๆ มาก่อนวิทยาศาสตร์

Jyotisha ศาสตร์ว่าด้วยโหราศาสตร์เวท เกิดในอินเดียมาก่อน ตำรามันหลากหลายว่ากี่ปีกันแน่ เอาว่าเป็นพันปี พอมีโหราศาสตร์ ก็ต้องผูกดวง ดูตกฟาก วันเกิดจึงมีความสำคัญต่อเจ้าของชะตา ...คือยิ่งเป็นชนชั้นปกครอง ชั่นสูง ก็ยิ่งให้ความสำคัญกับวันเกิด

เมโสโปเตเมีย (บาบิโลน–อัสซีเรีย) พัฒนาปฏิทินมาก่อนแล้วก็มี prophet ผู้ดูนิมิต การทำนายทายทักกษัตริย์ สงคราม ชะตาเมือง อันนี้ก็ย่อมต้องมีการกล่าวถึงวันเกิดตกฟากของกษัตริย์ นี่คือวันเกิดในยุคแรกๆ โน้น

แต่ต่อให้การโหราพยากรณ์และการคำนวนตกฟากเป็นเรื่องสำคัญ ก็เหอะ แต่สำหรับ คริสตศาสนาแล้ว วันตายของพระเยซู กลับสำคัญยิ่งกว่า วันเกิด

ประวัติศาสตร์คริสต์ ก่อเกิดมาจากความตายของเยซู มันสะเทือนใจ มันนิราเคิลฟื้นคืนชีพ มันเป็นอะไรที่อธิบายแนวคิดปรัชญาการเสียสละ อันทำให้ลัทธิศาสนาแข็งแกร่งขึ้นมา

วันสำคัญเกี่ยวกับความตายของพระเยซู มีมาก่อน เริ่มจาก The Last Supper ต่อด้วย Easter / Resurrection แล้วก็ Good Firday
กางเขนเป็นสัญลักษณ์แห่งความตาย

จอดศักดิสิทธิ์ ที่อินเดียน่า โจนส์ และ ดร.โรเบิร์ต แลงดอนของแดน บราวน์ ไปพัวพันด้วยก็เป็นเรื่องราวและสัญลักษณ์ความตาย

คริสต์สมภพมาทีหลัง แต่ก็ดังกว่า เพราะมาพร้อมการเฉลิมฉลอง ความสดใส รื่นเริง และเสียงหัวเราะของซานต้่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น