#วันไหม้
วันนี้ ฝุ่นแดงไปทั้งภาคเหนือ 17 มีนาคม 2568 ตรงกับปฏิทินล้านนา วันจันทร์ เดือนหก แรมสี่ค่ำ ปีกาบสี ความเชื่อโชคลางโหรพื้นเมือง ระบุเป็น #วันไหม้
วันไหม้ เป็นหนึ่งในวันไม่ดี ตามปฏิทินพื้นเมือง
ระบบปฎิทินล้านนาไม่เหมือนแบบไทยสยามทางใต้ เดือนนี้เดือนหก ล้านนา แต่ทางสยาม เป็นแรมสี่ค่ำ เดือนสี่ ปีมะโรง
มีความคล้ายกันตรงที่ภาคกลางก็มีปฏิทินฤกษ์ เช่นกัน จะเป็นวันอุบาทว์ วันธงชัย หรือดิถีเรียงหมอน ก็มีแบบเดียวกัน
ปฏิทินจีนก็เช่นกันครับ มีโชคลาภ วันดีวันไม่ดี ทิศทางดีทิศทางร้าย แถมธาตุทั้งห้า กำกับอยู่ในแต่ละแผ่นฉีก
วันไหม้ ตามปฏิทินล้านนาเป็นวันด้านลบแน่นอน แต่มีรายละเอียดต่างจากวันเสีย วันวอดวาย แบบไหนไม่รู้
ผมมารู้จักชื่อวันไหม้ เมื่อไม่นานมานี้ มีผู้ใหญ่คนบ่ะเก่าท่าหนึ่งเปิ้นบอกว่า คนล้านนาแต่ก่อนจะออกบ้านไปเผายะก๋าน ไปไฮ่นา หรือไปเผา เปื้นต้องดูฤกษ์
อย่างการเผาเอาเห็ด เอาของป่า ต้องเป็นวันเดือนออก แปลว่า เดือนหงาย ข้างขึ้น
วันไหม้ ซ้ำเป็นวันที่ถือว่าเผาแล้วหมาน ... หมานภาษาเหนือคือเฮง ขลัง พลังแรง !
ผมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ก็พยายามสังเกตมาตลอด อย่างที่ลาวเหนือ เขาต้องให้พ้นวันสำคัญอะไรสักวันก่อน แล้วค่อยลงไร่เข้าป่าไปเผาเตรียมแปลง ส่วนวันพระหยุดเผาเพื่อเข้าวัด ผมก็สังเกตอ้าว วันพระก็ยังเผานี่หว่า คือ มันตรงบ้างไม่ตรงบ้าง
เอาเข้าจริง สถิติจุดความร้อนในคืนวันไหม้ มันก็มากจริงๆ นะครับ คือเผามากกว่าวัน ก่อน-หลัง แบบน่าสนใจ
ผมเรียกว่า บังเอิญอย่างร้ายกาจ !
ก็ได้แต่เฝ้าดูมันต่อไปเป็นปีที่สองที่สาม...
จนล่าสุด ดูข่าวการสั่งการของแม่ฮ่องสอน ที่ให้ยกระดับปฏิบัติการรับช่วงพีคสูงสุดมีนาคม
รอง ผวจ. บุญลือ เป็นคนเก่งทีเดียว จัดการไฟแม่ฮ่องสอนปีนี้ได้เรียบร้อย ลดลงแบบถนัดตา เรียกว่าต้นฤดูแม่ฮ่องสอนเป็นโอเอซิสได้เลย ด้วยเพราะเข้าถึงชาวบ้าน นักปกครองที่มาจากสายนายอำเภอเก่ามีจุดเด่นตรงนี้
เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา วอร์รูมแม่ฮ่องสอนสั่งการยกระดับพื้นที่ไหม้ซ้ำซาก บูรณาการลาดตระเวน อันนี้หน.ตั้มทีมงานสถานีฝุ่น ไปฝังอยู่ที่ปายยืนยันว่าชาวบ้านยกระดับลาดตระเวนจริง ไม่ได้หลับนอนสามสี่ทุ่มไลน์ยังเด้งตลอด ปายจึงยังไม่มีไฟแบบที่เคยมี
แม่ฮ่องสอนจะเปิดให้คนบ้านทำไร่ที่สูงจัดการแปลงนะครับ กำลังเร่งสำรวจ และให้เข้าแผนเพื่อจะควบคุมแบบ controlled ผมเห็นดีงาม ด้านที่เข้มก็เข้ม ด้านที่จัดการก็จัดการจริงจัง มีแผน มีการดูผลกระทบ เอาสภาพพื้นที่ชายแดนภูเขา คนอยู่ในป่าเขา 80% ก็ต้องมีวิธีบริหารจัดการตามบริบทเขา
ข้อสั่งการข้อสุดท้าย วันไหม้ (17มี.ค.) เป็นความเชื่อล้านนา ให้ยกระดับความเข้มข้นเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
เพิ่งเห็นมาตรการทางการ ต่อเรื่องความเชื่อเรื่องวันไหม้ เป็นครั้งแรกก็แม่ฮ่องสอนนี่ล่ะ
ก็ดีครับ การ์ดสูงไว้ เข้าถึงเข้าใจชุมชนความเชื่อต่างๆ ไม่เสียหลาย
ต่อให้ไม่ใช่วันไหม้ การเผาเพิ่มขึ้นชัดเจน และน่ากลัว เช่น ที่แม่พริกรอยต่อ อช.แม่ปิง มีความพยายามจุดจากชายขอบรอยต่อเข้ามาหลายวันแล้ว ไปดับจบ ก็มีคนลอบมาเผาต่ออีก เพื่อมุ่งหวังให้ลามไปทุ่งกิ๊กซึ่งที่นั่นเป็นแหล่งเห็ดใหญ่
การเผาป่ามีเป้าหมาย มีผลประโยชน์อยู่ในนั้นแน่นอน
อาจจะยกเว้นคนบ้า คนฟั่นเฟือนเสียสติซึ่งคงไม่มาก คงไม่มีใครลงทุนเดินร้อนๆ จากบ้านเข้าป่าเตรียมอุปกรณ์ไปเผา แล้วกลับบ้านเฉยๆ
คนติดตามข่าวสารต้องแยกให้ออกว่า เผาที่ทำกิน /เผาเกษตร กับเผาป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ฺ ที่ทางการมีหน่วยกำกับดูแล ไอ้ที่มีปัญหามากๆ สำหรับภาคเหนือ คือ การลอบเผาป่าครับ !!
ความขัดแย้งมากๆ ไม่ใช่เรื่องเผาเกษตรไม่ได้หรอก เพราะจนท.ส่วนใหญ่เขาเข้าใจคนทำกิน แปลงเกษตรไม่ค่อยมีปัญหาหรอก ย้อนไปดูเหอะ แพร่น่านพะเยาเชียงรายลำปางลำพูนแม่ฮ่องสอน
ความขัดแย้งอยู่ที่ ชาวบ้านจะเผาป่าด้วย ซึ่งในทางปฏิบัติมันก็มีจริงๆ ป่าชายขอบติดบ้าน ซึ่งแต่ละป่ามักจะมีวิธีอนุโลม เจอกันครึ่งทาง บางป่าเขามีแผนจัดการเชื้อเพลิง จนท.ไปเผาให้ก่อนด้วยซ้ำไป แต่บางป่าเขาก็ไม่ให้ พอไม่ให้ก็ลอบเผา กลายเป็นพื้นที่ไฟซ้ำซาก
เรื่องพวกนี้มันต้องเอาข้อมูลเก่ามาวางแบ จุดไหน อย่างไร ทีละเขต ๆ แต่ละพื้นที่ก็มีเงื่อนไขลักษณะเป็นมาไม่เหมือนกัน อย่างที่แพร่ คนดุ เขาก็มีเผาตามแบบฉบับของเขาในป่าของรัฐ มันก็รู้ๆ กันว่าเป็นเช่นนี้มายาวนาน บางที่คุยได้จัดการได้ บางที่ไม่ได้ บางที่ก็ต่อรองในรูปลักษณาการต่างๆ กัน
การต่อรองที่น่าจะได้ผลสำหรับสายตาของผม คือ หากเป็นการเผาเพื่อผลประโยชน์เศรษฐศาสตร์แล้วไซร้ การห้ามเข้าป่าแบบที่เคยใช้ที่เชียงดาว หรือใช้เป็นคำขู่ที่น่าน ถ้าไหม้มากเกินไปแล้วชุมชนไม่ช่วย ไม่เป็นไร ก็ลงโทษด้วยการไม่ให้เข้าป่า เป็นวิธีการทางเศรษฐศาสตร์ ไม่ใช่เอาไปเข้าคุก แค่ไม่ให้เข้าไป ก็เจ็บปวดไปทั้งชุมชน
สำหรับผมแล้ว ผมเป็นคนไม่ค่อยเชื่อโชคลางเท่าไหร่ เดือนนี้ทั้งเดือนมันก็ไหม้ ... แต่ก็เข้าใจวิถีความเชื่อท้องถิ่นนะครับ วันไหม้ อาจจะขลัง อาจจะหมาน อาจจะทำให้การเผาเกิดผลรับที่ดีสำหรับชาวเผาจริงๆ ก็ได้
พี่น้องสื่อไม่ต้องโทรมาเรื่องนี้นะ ไปถามผู้รู้อย่างอาจารย์สนั่น ธรรมธิ หรือพ่อครู พ่อหนานท่านอื่นจะตรงกว่า
เอ้อ แล้วเรื่องสภาลมหายใจไม่เห็นด้วยห้ามเผา ก็ไม่ต้องมาถามผม เพราะเครือข่ายอาสาที่มาร่วมกันมันใหญ่มาก หลายจังหวัดเป้าหมายเรื่องฝุ่นเดียวกันก็จริง แต่มันหลวม และอาจจะยืนคนละมุมด้วยซ้ำไป พอกลายเป็นเครือข่ายระดับภาค ชร. มส. ลพ. ลป. ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับ ชม. ดังนั้นไปถามให้ตรงตัว สำหรับผมนั้นจุดยืนก็ชัดเจนตามที่เขียนรายวันมาโดยตลอด ลดไฟลดแหล่งกำเนิดให้มากที่สุด โอเคมียืดหยุ่นได้ แต่ต้องยึดผลกระทบเป็นหลักใหญ่ที่สุด ต้องเปิดเผยโปร่งใส แบบที่ทำกันมาเมื่อปี 67 ไม่ดี ต้องแก้ไขปรับปรุงอย่างยิ่ง เพราะมันกระทบสูง
ตามนั้นนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น