
ลุง ปราณี ศิริธร ณ พัทลุง ให้กำเนิด เพ็ชร์ลานนา ขึ้นในบรรณโลกเมื่อปี 2507 จนล่าสุดผมยังเจอะสเตตัสที่อ้างถึงหนังสือเล่มนี้อยู่ในเฟซบุ๊ค ใครจะเขียนอะไรถึงเจ้าทางเหนืออย่างไรเสียต้องมีเพ็ชร์ลานนาไปเกี่ยวสักอย่าง หลายปีก่อนประเด็นเรื่องมะเมี้ยะมีตัวตนจริงมั้ยเป็นกระทู้ใหญ่มาก ที่ถูกยกขึ้นวิพากษ์กัน
เพ็ชร์ลานนาเป็นประวัติศาสตร์งานเขียนอีกเล่ม เพราะตัวของมันแม้จะเป็นเกร็ดสารัตถคดีท้องถิ่น แต่ก็ขึ้นเป็นประวัติศาสตร์ของวงการหนังสือที่ยืนยงอีกเล่ม มือสองในตลาดหลักพันหาซื้อไม่ได้
เรื่องราวที่เป็นเกร็ดมีความน่าสนใจด้วยตัวมันเอง เช่นคู่เลสเบี้ยนในราชสำนักนี่ หรือถ้อยคำของพระราชชายาเจ้าดาราฯ อยากเสวยดอกลำโพง อะไรเหล่านี้น่าสนใจกว่าประวัติทื่อๆ ความเป็นมาของหนังสือก็น่าทึ่ง คนปักษ์ใต้ขึ้นไปอยู่เหนือ จับพลัดจับผลูเข้าไปคลุกวงในเจ้านายฝ่ายเหนือ ได้ผลิตผลออกมาเพราะความเป็นเขียนนักหนังสือพิมพ์ สังเกตงานแต่ละชิ้นมันสามารถแยกจากกันเป็นเอกเทศได้หมด ค่อยมาร้อยเรียงกันเป็นเล่มภายหลัง
ผมมีส่วนในเพ็ชร์ลานนา ตรงที่เป็นคนขอลุงปราณีจัดพิมพ์ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2538 ไม่งั้นหนังสือนี้จะหายไปแน่นอน ขาดตลาดมานาน ขนาดบ้านของลุงปราณีที่ข้างวัดป่าเป้า ยังเหลืออยู่เล่มเดียว ผมเอามาทำต้นฉบับลุงย้ำว่าอย่าให้หายนะ ทำต้นฉบับเสร็จรีบถวายส่งคืน นับนิ้วไปมาการพิมพ์ครัังสอง ก็ใกล้ครบ 30 ปีแล้ว
ในวาระนี้อยากบันทึกอะไรไว้เพิ่มเติม
หนึ่ง~ สำนักพิมพ์ผู้จัดการภาคเหนือ มีผลงานพิมพ์หนังสือเล่มก็แค่เพ็ชร์ลานนาเท่านั้น ผมไปอยู่ใหม่ๆ เริ่มสนใจประวัติศาสตร์ท้องถิ่นล้านนา ตามหาตัวลุงเข้าไปคลุกคลีขอความรู้ ก็คิดอยากพิมพ์ ทั้งที่บริษัทไม่ได้มีนโยบายจัดพิมพ์หนังสือเล่ม เขาทำหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายวัน มันเป็นจังหวะ ความบังเอิญ ความมีโชคของผมของลุง ที่ผู้บริหารอนุมัติ ลุงปราณีได้ค่าลิขสิทธิ์ตอนนั้นราวๆ 2 แสน ผมจำไม่แม่น แต่เกินแสนห้าแน่
สอง~อย่างที่ลุงเขียนไว้ในคำนำ มีการยำรวมเรื่องเพิ่มขึ้นจากการพิมพ์ครั้งแรก โดยเอาเรื่องในหนังสือเล่มอื่นของลุงปราณีเพิ่มลงไป ให้แต่ละหมวดหมู่มีเนื้อได้สัดส่วน ที่จริงผมขอมากกว่านั้นอีก คือจะเปลี่ยนชื่อเป็นเพ็ชร์ล้านนา เพราะตอนนั้นข้อถกเถียงว่าด้วย ล้านนา/ลานนา ยุติแล้ว แต่ลุงปราณีหัวเด็ดตีนขาดห้ามเปลี่ยน
สาม~ รูปถ่ายลุงปราณีกำลังเปิดหนังสือในหน้าคำนำ ผมถ่ายเองที่บ้านข้างวัดป่าเป้า ห้องทำงานเล็กๆ ด้านหลังมีหิ้งหนังสือกองมากมาย ความรู้ทั้งนั้น ส่วนภาพหน้าปกสามกษัตริย์ อยู่ในซุ้มอิฐ ผมน่ะคิดประดิษฐ์ซ้อนเลเยอร์ขอฝ่ายอาร์ตลองทำ มันได้อยู่นะ ซุ้มอิฐนี่น่าจะถ่ายจากวัดเจ็ดยอด แต่ที่อยากบันทึกคือเป็นความอ่อนด้อยของผมเองที่ไม่คิดย้อมสีปกให้ต่างกันระหว่างเล่มหนึ่งเล่มสอง มาคิดได้ภายหลังไม่ทันแล้ว ตัวเมืองขออ้ายไพฑูรย์ พรหมวิจิตรเขียน ยุคนั้นเขายังไม่เชิดชูตัวเมืองมากนัก แต่ผมอยากเชิด
สี่~เจ้าแม่ดวงเดือน ณ เชียงใหม่ เคยบอกผ่านผมว่า คุณปราณีเอาข้อมูลจากท่านพ่อของเจ้าแม่ (เจ้าราชภาคิไนย เมืองชื่น) ไปเขียนเพ็ชร์ลานนา (ได้เงินใช้เองเจ้าของข้อมูลไม่ได้ อันนี้ผมขยายความ) ซึ่งก็จริงครับ ที่ลุงแกได้เกร็ดข้อมูลมหาศาลเหล่านี้จากผู้รู้ของจริงท่านอื่น เหมือนลุงจะรู้ว่ามีเสียงสะท้อนลักษณะนี้ จึงได้เขียนเครดิตไว้ในคำนำครั้งสอง ว่าได้ข้อมูลข้อเขียนจาก เจ้าราชภาคิไนย เจ้าไชยวรเชษฐ์ เจ้าน้อยปิงเมืองฯลฯ มารวมเป็นเพ็ชร์ลานนา
…
ผมย้ายมาอยู่เชียงใหม่ครั้งแรก ต้นปี 2535 ก่อนพฤษภาทมิฬ จากนั้นก็เริ่มอินกับความเป็นเชียงใหม่ นั่งกินเหล้าริมน้ำปิงจินตนาการคิดไป สมัยก่อนตรงนั้นเป็นอะไรหนอ เขาทำอะไรหนอ จนหมกมุ่นกับประวัติศาสตร์เมือง นั่นเป็นเหตุให้ผมวิ่งไปหาลุงปราณี ไปบ่อยจนคุ้นเคย มีเรื่องราวให้ถามเยอะมาก แค่ว่า พระราชชายายกขบวนเจ้านายไปบ้านแม่ริม ผ่านอะไรบ้าง ลุงแกก็รวมอยู่ในขบวนนั้นด้วย อธิบายเส้นทางจากประตูช้างเผือกเป็นตุตะ บ้านโน้นบ้านนี้ วัดพระนอนนี่จำได้แม่น ยุคนั้นยังไม่มีถนนโชตนา ผมถามกระทั่งตอนเปลี่ยนแปลงการปกครองเจ้าฝ่ายเหนืออยู่กันยังไง เหมือนลุงไม่อยากเล่าลึก อาจด้วย ม.จ.บวรเดช อยู่ที่เชียงใหม่นาน มีลูกหลานเจ้าฝ่ายเหนือที่พัวพันเหตุอยู่ด้วย เสียดายที่ไม่ได้ซักเรื่องมะเมี้ยะแบบจริงจัง ตอนนั้นมะเมี้ยะกำลังดัง ละครทีวี ศรรามกับกบสุวนันท์ ลุงแกรวยจากละครหลายตังค์เหมือนกัน
ลุงปราณีเสียเมื่อ 2540 น่าเขกหัวอีกที่ผมไม่จำว่าเดือนอะไร เอาภาพถ่ายเก่างานศพขยายดู ไม่ชัดว่า เดือนมีนาคม หรือ มิถุนายน ที่จำได้คือมันกระชั้นมาก ลุงเพิ่งไปเป็นประธานงานแต่งงานผมเดือน พฤศจิกายน 2539 ภาพที่เอามาลง อาจจะเป็นการออกงานครั้งสุดท้ายของลุงปราณี ไม่นานจากนั้นเข้า รพ มหาราชสวนดอก ผมไปเยี่ยมบอกว่าโรคปอด ผมไม่เอะใจอะไร คือไม่สนใจติดตามมารู้อีกครั้งท่านไปแล้ว
งานศพลุงปราณีมีสามล้อถีบมากมายเป็นร้อยมาร่วมขบวน นั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่มีการรวมตัวของรถสามล้อถีบนครเชียงใหม่ ตามขบวนศพจากวัดเจดีย์หลวงไปสุสานหายยา บรรทุกพวงหรีดเครื่องเคารพต่างๆ เป็นแถวยาวมาก ด้วยเพราะลุงปราณีเป็นนายกสมาคมรถสามล้อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น