วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567

conflict of interest ของฝุ่นควัน



โจทย์จากนี้ไปของวิกฤตฝุ่นคือวิธีการ.. จะแก้อย่างไร?

เรื่องใหญ่ซับซ้อน แค่ระบบราชการอย่างเดียวก็ยาก ยังมีประเด็นที่ยากกว่าคือ conflict of interest แทบทุกการปล่อยมลพิษ มีผลประโยชน์/คุณประโยชน์เป็นอีกด้านของเหรียญ

อีกด้านหนึ่งของการเผานา คือข้าวนาปรัง

อีกด้านหนึ่งของเผาอ้อย คือ จีดีพีส่งออกน้ำตาล

อีกด้านหนึ่งของมลพิษจราจรคือการเติบโตและวิถีชีวิตเมือง

และอีกด้านหนึ่งของการเผาในป่า ก็อาจมีผลประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ในทางใดทางหนึ่ง ทั้งราษฏร์-รัฐ ที่มาเกี่ยว ขึ้นกับป่าไหนประโยชน์ใคร ช่วงเวลาไหน

วิธีการจะแก้นั้นมีได้หลายวิธี ทำหลายอย่างพร้อมกันก็ได้ ยกเว้น วิธีที่ไม่ลงตัวระหว่างกลุ่ม ผู้ปล่อย กับกลุ่มผู้รับ ที่เป็นคู่ขัดแย้งกัน

รัฐจะตกลงกับกลุ่มผู้ได้ประโยชน์และปล่อยมลพิษ กันแค่สองฝ่ายไม่ได้ หากมาตรการนั้นยังกระทบเต็มๆ กับประชาชนผู้รับผลกระทบ ถ้าไม่เอาความคิดเรื่องระวังผลกระทบมาใส่เป็นข้อคำนึงในมาตรการ ก็แสดงว่า วิธีการนั้นยังไม่สมบูรณ์

การตกลงชิงเผากันสองฝ่าย รัฐอนุญาต จนท.รัฐ (เองเออเอง) รัฐอนุญาตชาวบ้านกลุ่มต้องการเผา โดยไม่บอกกล่าวชาวบ้านใต้ลม มันจะสำเร็จเป็นมาตรการได้อย่างไร

ในท่ามกลาง conflict of interest ฝ่ายการเมือง กับ ราชการประจำ ก็คนละมุมนะ ประชาชนที่ได้ประโยชน์จากการปล่อยมลพิษ กับกลุ่มผู้รับผลก็คนละมุม

ธรรมาภิบาลเท่านั้น .. ที่ผ่านมามีรึยัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น