บันทายสมอ บันไทสมอ
แปลกดี จังหวะชีวิตช่วงนี้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับ #บันไทสมอ -#บันทายสมอ ต่อเนื่องกัน จึงถือโอกาสขยายความ เล่าสู่กันให้เอิกเกริก
ผมเพิ่งได้รับหนังสือ "บันไทสมอ" เมืองโบราณกระบี่จากอาจารย์ อภิชาติ ดำดี Apichat Dumdee ส่งมาเป็นของขวัญปีใหม่ - ขอบพระคุณครับ
หนังสือเล่มนี้เขียนโดยพระนักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเมืองกระบี่ สนับสนุนการพิมพ์โดยนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ มีเนื้อหาว่าด้วยประวัติศาสตร์เมืองกระบี่ เป็นทฤษฎีเจาะจงพิสูจน์ว่า เมืองบันไทสมอ/บันทายสมอ ในตำนานที่แท้อยู่ที่กระบี่นี่เอง...
น่าสนใจครับ เข้าใจว่าทางเทศบาลฯ หรือทางผู้เขียนคงมีเหลือพอสำหรับผู้สนใจลองติดต่อไปหาอ่านดู
เมืองบันทายสมอคงเป็นชื่อที่แปลกหูสำหรับผู้ที่ไม่ได้สนใจประวัติศาสตร์โบราณคดี ชื่อเมืองๆ นี้ปรากฏในตำนานเมืองนครศรีธรรมราช บอกว่าเป็น 1 ใน 12 เมืองนักษัตรที่เป็นเมืองบริวารของนครศรีฯ เช่น สายบุรี ปัตตานี ตะกั่วป่า ชุมพร กระบุรี... ใช้ตราชวด ฉลู ขาล เถาะ เป็นตราประจำเมือง
ชื่อเมืองอื่นๆ น่ะพอรู้ แต่บันทายสมอนี่สิ !!! ปัจจุบันคือเมืองอะไร ?
ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาก็มีผู้รู้นักปราชญ์สันนิษฐานกันไปต่างๆ นานา บ้างว่าอยู่ที่ไชยา บ้างว่ากาญจดิษฐ์แถวๆ ท่าทองอุแท บ้างก็ว่าอยู่ที่กระบี่ อย่างเช่นท่านจันทร์ (ม.จ.จันทร์จิรายุวัฒน์) ที่เชื่อว่าอยู่กระบี่เพราะกระบี่เองก็เป็นเมืองสำคัญชายฝั่งอันดามัน เป็นต้นทางของการเดินทางข้ามคาบสมุทรของคนโบราณ ที่สำคัญ ตราของเมืองบันทายสมอ ใช้ตราวอก-ลิง แหมช่างบังเอิญตรงกับชื่อกระบี่/ กบี่ / ที่แปลได้ว่าลิงเลยทีเดียวเชียว
หนังสือเล่มที่อำจารย์อภิชาติส่งมาให้เขาสืบค้นไปไกลกว่าอีก ลากโยงไปถึงชื่อเมืองปาณฑาย ในทมิฬนาฑู เขตอินเดียใต้ซึ่งรัฐแถบนี้มีความเชื่อมโยงกับเอเชียอาคเนย์ใกล้กันมาก พอๆ กับลังกา มีเรื่องราวผูกกับตำนานการสู้รบระหว่างโจฬะกับชาวเมืองแถวนี้บรรจุในเนื้อเรื่องด้วย เพื่อจะสรุปว่า บันไทสมอที่แท้มีที่มาจากอินเดียใต้ และอยู่ที่กระบี่นี่เอง
ผมไม่บังอาจไปฟันธงหรอกนะครับว่าทฤษฎีใหม่ว่าด้วยบันไทสมอเวอร์ชั่นกระบี่จะถูกไม่ถูกอย่างไรต้องให้ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงเขาว่ากัน เพราะไอ้เรามันแค่นักอ่านติดตามแบบสมัครเล่น
มีเรื่องที่อยากเล่าให้่ฟังเพิ่มอีกหน่อย...เพราะบันทายสมอน่ะ ผมเองก็หยิบมาเล่นในนวนิยายที่กำลังจะลงพิมพ์ในสกุลไทย"#รหัสลับตามพรลิงค์" ได้ใช้แก๊กความลึกลับที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ของเมืองนี้แหละมาเป็นปริศนาหนึ่งในเรื่อง พระเอกของเราสนใจเทวรูปเขมรโบราณสมัยบายน (ยุคนครธม/ชัยวรมันที่7/มหายาน วัชรยานตันตระ) ที่ฐานของรูปนั้น จารึกเป็นอักษรเขมรโบราณระบุนาม "บันทายถมอ" เอาไว้
คำว่า บันทาย ปรากฏในจารึกโบราณมากมายแปลว่า ป้อม /ปราการ ส่วน ถมอ แปลว่า หิน ครับ...ถ้าท่านดูตำนานพระนเรศวรฯ มีขุนนางคนหนึ่ง พระศรีถมอรัตน์ มาจากศรีเทพเพชรบูรณ์เพราะที่นั่นมีเมืองโบราณยุคขอมอยู่ แล้วก็มีภูเขาชื่อ ถ้ำเขาถมอรัตน์ แห่งเมืองศรีเทพ
บันทายถมอ ที่แปลว่า ปราการหิน ก็เป็นอีกทฤษฎีหนึ่งของเมืองบันทายสมอในตำนานเมืองนครศรีเช่นกัน แรกๆ เรียกบันทายถมอ ต่อมาลิ้นคนท้องถิ่นปรับมาเป็น บันทายสมอซะ ... ทฤษฎีเขมรนี้มีน้ำหนักอยู่พอสมควรเพราะชื่อบ้านนามเมืองของภาคใต้โดยเฉพาะชายฝั่งตะวันออก เป็นชื่อเขมรโบราณเสียเป็นส่วนใหญ่ สทิงพระ ปากแตระ ระโนด ฉวาง เฉวง ขนอม นี่ไม่ใช่คำพื้นถิ่นดอก ...เขมรทั้งนั้น
เรื่องราวที่เกี่ยวกับชื่อบ้านนามเมืองใต้ /และความสัมพันธ์ระหว่างคาบสมุทรใต้กับเขมร ในยุคหลังศรีวิชัย เป็นพื้นฐานของนวนิยาย รหัสลับตามพรลิงค์ ขอรับ
นอกจากขอบคุณหนังสือบันไทสมอแล้ว ถือโอกาสโฆษณานิยายตัวเองไปด้วย หุหุ ค้ากำไรเกินควรไปหน่อยสเตตัสนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น