วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สยามรับชื่อปีนักษัตรจากเขมร (โบราณ)




ศัพท์ที่เราใช้เรียกชื่อปี ชวด ฉลู ขาล เถาะ .... มาจากขอม/เขมรโบราณแน่นอนครับ  จากภาพก็เห็นได้ชัดเจนว่าเขมรเขาเรียกม้า แพะ ว่ามะเมีย มะแม

หลักฐานไทยเก่าสุดแค่ศิลาจารึกที่ตอนนั้นระบุเรียกชื่อปีและระบบปฏิทินแบบจันทรคติเอาไว้ แต่จารึกขอมเก่ากว่า ระบุชื่อปี ชวด ฉลู ขาล เถาะ ไปก่อนแล้ว และที่สำคัญศัพท์พวกนี้มันภาษาเขมรโบราณที่เราเรียกว่าขอมนั่นแล ไม่ใช่คำไทยแต่อย่างใด

ต่อให้ไม่ชอบหน้าอีตาฮุนเซน แต่เราก็ควรยอมรับว่าเขมรโบราณน่ะเขาอารยธรรมยิ่งใหญ่มาก่อน แค่นครวัดก็ศตวรรษ 12 ไปโน่นแล้ว ไม่ต้องลึกไปถึงฟูนันหรอก การสร้างปราสาทของเขาแอบอิงกับความรู้ดาราศาสตร์/ปฏิทิน/ท้องฟ้า/ดวงดาวอย่างชัดเจน ความรู้เหล่านี้รับมาจากอินเดียพร้อมๆ กับลัทธิความเชื่อรามเกียรติ์มหาภารตะเทพเทวดาอั้ปสะราทั้งหลาย แต่ก็น่าสนใจตรงที่การกำหนดรอบปีเป็นรูปสัตว์นั้นรับมาจากจีน...ไม่ใช่อินเดีย

อินเดียไม่มีปีนักษัตร ชวด ฉลู ขาล เถาะ ครับ...รูปสัตว์นี้มาจากจีนเท่านั้น !

ขอมเป็นอารยธรรมที่ผสมผสานไฮบริดศาสตร์ด้านปฏิทินระหว่างอารยธรรมอินเดีย-จีนอันดับแรกในภูมิภาคนี้เลย (อันนี้ข้าเจ้าฟันธงเอง ห้ามอ้างอิงในทางวิชาการเพราะจะไม่ได้เกรด) !!

ไทยเรารับวัฒนธรรมขอมมาเต็มๆ โดยเฉพาะการมาใช้ในราชสำนักอยุธยา ถ้าใช้ศัพท์ซ้ายก็คือรับขอมมาใช้ในกิจการของโครงสร้างส่วนบนของผู้ปกครอง ลัทธิ พิธีกรรม วรรณคดี โลกทัศน์ ฯลฯ ราชาศัพท์ที่ใช้เฉพาะในราชสำนักก็ศัพท์ขอม เห็นแมะ...ระบบปฏิทินก็รับมาด้วย

ไทยเราเลยได้ศาสตร์ไฮบริด แขกผสมเจ๊กมาแต่บัดนั้น

ป.ล.ส่วนความเชื่อเรื่องปีชง ใครชงนี่ซวยบรรลัย อยู่ไม่ติดต้องไปควักเงินแก้ชง อันนี้...ไม่ว่าขอมหรืออยุธยาเรื่อยมาถึงรัตนโกสินทร์ไม่มีนะฮับ ดวงไทยกำหนดเรื่องซวยเอาไว้อีกแบบหนึ่งเช่นเบญจเพศ หรือดูดาวว่าตกเกณฑ์ชนิดใด เพิ่งจะมายุคนี้แหละที่เชื่อเรื่องปีชงเป็นจริงเป็นจัง สบายซินแซและศาลเจ้าไป เอิ่มมมม นึกขึ้นได้...พระไทยสุดยอดไฮบริดก็รับแก้ชงแล้วนะฮ้าบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น