ปีนัง กับ 2475
กรมพระยาดำรงฯ ลี้ภัยไปประทับที่ปีนัง อ่านสาส์นสมเด็จ ท่านจั่วหัวแอดเดรสว่า บ้านซินนามอน ปีนัง อยากรู้ว่าเรือนประทับที่โน่นหน้าตาอย่างไร หลายปีก่อนโน้น ไปปีนัง..ไปตามหา ก็พบว่าบ้านเลขที่ 15 ถนน Kelawai บัดนี้ถูกรื้อทิ้ง เปลี่ยนเป็นอาคารอื่นเสียแล้ว
ได้ไปเห็นแค่ที่ตั้ง ภูมิศาสตร์ของย่านถนนที่ว่ามันเลาะชายทะเลจากจอร์จทาวน์ออกมา เป็นย่านบ้านเรือนใหญ่ ๆ ที่ดินแปลงใหญ่ คือเป็นย่านผู้ดีมาแต่เดิม
ยังดีที่เพิ่งเสริชเจอว่า คนปีนังยุคนี้ตื่นตัวเรื่องการอนุรักษ์อาคารเก่า ความทรงจำต่างๆ ปีนังน่ะ เมืองท่าสำคัญดังนั้น story เยอะ (ซุนยัดเซ็นก็ใช้เป็นฐานอยู่พักใหญ่) ในเฟซบุ๊คมีการเอ่ยถึง บ้านพัก Prince Damrong ที่ถนนเกลาไว หมายเลข 15 ปัจจุบันเป็น flying club เอาภาพเฟซบุ๊คของเขามาแปะให้ดูสภาพปัจจุบัน
ปีนังเพิ่งได้มรดกโลกปี 2008 (2551) เงินทองไหลมา ผมไปครั้งแรกราวปี 33-34 ขับรถข้ามไปจากหาดใหญ่ ตอนนั้น เมืองเขายังไม่มีอะไรมากเท่าตอนนี้บะหมี่จืดชืด ไม่มีเครื่องปรุง มหาเธร์บูมปีนัง เงินทองไหลมาถล่มบ้านเก่าทิ้งไปเยอะ คนที่นั่นเพิ่งนึกได้ก็สายไปพอสมควร
เรือนโบราณที่มีประวัติศาสตร์อย่างยิ่งของตระกูล ณ ระนอง คือบ้านอัสฎางค์ กับ บ้านจักรพงษ์ ตั้งชื่อตามเจ้าฟ้าที่เคยไปประทับ ก็ถูกรื้อ เขามาเสียดายกันเมื่อสายไปแล้ว
ตอนเปลี่ยนแปลงการปกครอง คนเขาขยาดกลัวไม่กล้าเข้าใกล้เจ้า ตระกูล ณ ระนอง เป็นตระกูลที่ไม่แคร์คณะราษฎร์ ออกหน้ามาร่วมช่วยเหลือเจ้านายที่กำลังถูกเนรเทศ ตระกูลนี้ร่ำรวยมีอำนาจจากราชสำนัก และคงทรัพย์สินทางถอยอยู่พอสมควร จึงกล้าออกหน้า
ปีนังเป็นเกาะที่มีเรื่องราวเกี่ยวสะท้อนการเมืองไทยยุคเปลี่ยนแปลงมากมาย
ผมไปเยี่ยมที่ฝังศพ / และ Jalan Mano ซอยที่ตั้งบ้านพัก พระยามโนปกรณ์นิติธาดา นายกรัฐมนตรีคนแรก นี่ก็ story สะท้อนการเมืองนะครับ
พระยามโนปกรณ์ เป็นรูปธรรมของความพยายามประนีประนอม พบกันระหว่างเจ้า กับ คณะราษฎร แต่ก็ล้มลงอย่างรวดเร็ว ถูกส่งไปตายปีนังอีกคน
กรมพระสวัสดิ์ฯ เป็นเจ้าที่มีบทบาทจี๊ดจ๊าดในยุคนั้น เพราะเป็นพ่อตาของรัชกาลที่ 7 ในช่วงนั้นคือ สมัย ร.7 ก่อนเปลี่ยนแปลง บรรยากาศของวงการเจ้าก็วุ่นๆ มั่วๆ พวกเจ้าเองก็เหมือนคนธรรมดาแหละ ไม่ได้เพอร์เฟ็คเป๊ะๆ มีรั่ว มีมั่ว มีทะเลาะ ก่อนที่ร.7 จะขึ้นครองราชย์ เจ้านายผู้ใหญ่ท่านหนึ่งขอร้องว่า อย่าให้เจ้านายบางองค์ มีบทบาทในการบริหารแผ่นดิน ร.7 รับปาก เจ้านายผู้ใหญ่องค์นั้นจึงค่อยกราบยอมรับ
กรมพระสวัสดิ์ฯ สิ้นพระชนม์ที่ปีนัง บันทึกเล่าว่า ขาดแคลนไปหมด แบบไร้ญาติขาดมิตร งานไม่สมพระเกียรติ นี่ก็รูปธรรมของบรรยากาศหลัง 2475
ผมไปที่วัดปิ่นบังอร อยากเห็นสถานที่ถวายพระเพลิง เจอะเจ้าอาวาสพูดไทยได้ คนเชื้อสายไทย ได้เอกสารลายพระหัตถ์กรมพระสวัสดิ์ตั้งชื่อวัดว่า วัดปิ่นบังอร เอาภาพมาแปะให้ดูกัน มันนานมากแล้วขอเอาภาพท่านเจ้าอาวาสมาแปะบันทึกด้วย เป็นประวัติศาสตร์ ว่าท่านเล่าเรื่องกรมพระสวัสดิ์กับชื่อของวัดไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น