กฎหมายอากาศฯใหม่จะมีความสามารถแก้ปัญหาได้จริงแค่ไหน?
โดยเฉพาะแหล่งกำเนิดใหญ่ การเผาที่โล่งที่กำลังถล่มภาคเหนือทั้งภาคเป็นนรกอยู่ตอนนี้
มันมีการตั้งใจเผา ลักลอบเผา และหาทางเผาโดยอ้างการชิงเผาภาครัฐอยู่ทั่วไป บางจุดกำนันผญบ.อีกตำบล ไม่ต้องการ อีกฝ่ายบอกจุดให้จบๆ ไป แต่มันลามต่อหลายวัน เพราะไม่ตั้งใจบริหารไฟจริง ไฟที่เกิดตั้งแต่ปลายเดือนเป็นไฟบุฟเฟ่ต์ อาศัยช่วงที่ จนท.ดับไฟเหนื่อยล้า ระดมจุดกันทั่วไป ที่เล็กจึงกลายเป็นใหญ่
แหล่งไฟใกล้กระทบแรง ภายใต้สภาวะอากาศแบบนี้ต้องไม่มีแหล่งกำเนิดในพื้นที่ ผสมโรงกับฝุ่นข้ามแดน แต่เราก็จุดกันวันละเป็นพันๆ กอง
จะห้ามไฟลักลอบอย่างไร จะจัดการปัญหานี้ได้อย่างไร
นี่เป็นโจทย์สำคัญใหญ่สุดที่น่ากังวลของร่างกฎหมายอากาศสะอาด ขณะนี้อยู่ระหว่างแปรญัตติยำกันหลายร่าง
กฎหมายที่มีอยู่ มาจากแนวคิดภัยพิบัติ ให้อำนาจพิเศษ ให้เงิน ให้อำนาจ บทลงโทษ เช่น พรบ.ปภ. ที่ผู้ว่าฯ ใช้ซิงเกิ้ลคอมมานด์ ที่จริงยังมี พรก.ฉุกเฉิน พรบ.โรคติดต่อ ฯลฯ ประกาศเขตขึ้นมา …
แล้วไงต่อ !!!?
ประเทศเราไม่ได้ขาดแคลนบทลงโทษเผาป่า ลำพังกฎหมายด้านป่าไม้ที่ใช้อยู่หลายฉบับลงโทษการเผาในป่าหนักมาก ขนาดที่เจ้าหน้าที่ยังกังวล จับกุมไปมันเข้าคุก 5 ปี ปรับเป็นแสน ชนิดที่ชุมชนนั้นจะเป็นปฏิปักษ์กันระยะยาว หรืออาจจะมีไฟตู้มเดียวสิบจุดรอบสำนักงานในคืนถัดไป
กฎหมายอากาศสะอาด ถ้ามีแค่เรื่องการรับรองสิทธิเพิ่มขึ้น มีกลไกห้ามนำเข้าสินค้าข้ามแดนจากการเผาได้จริง แต่หากยังไม่มีอิทธิฤทธิ์มาแก้ปัญหาแหล่งกำเนิดการเผาที่โล่งภาคเหนือ การลอบเผาในป่าแบบที่กำลังเกิด จะเสียเวลาเติมปรับกันใหม่อีก
ประเด็นที่กรรมาธิการควรพิจารณาอย่างยิ่งคือ กลไกปฏิบัติการ ที่เป็นจุดอ่อนอยู่
ประเทศเรามีโครงสร้างราชการส่วนกลางภูมิภาคท้องถิ่นที่ไม่สวมรับกันจริง แค่ปัญหาไฟในป่า ไฟป่าสงวน ไฟเกษตรชุมชนในป่า เอาแค่นี้ก่อน ก็จะเห็นว่าไม่มีเจ้าภาพปัญหาแท้จริงสักราย หรือบางหน่วยอาจจะรู้สึกว่าเป็นเจ้าภาพ แต่ยังต้องเติมเต็มจากหน่วยอื่น ยังขาดขั้นตอนวิธีและอำนาจไปทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ
ยกตัวอย่างสามป่าเหนือเขื่อนที่เป็นแปลงไฟใหญ่สุดของประเทศ ต่อให้ประกาศพื้นที่สามป่าอนุรักษ์แล้ว จะป้องกันจัดการดำเนินการ
อย่างไรต่อให้เกิดประสิทธิภาพ จากนี้ไป .. คำตอบคือ มีชุมชนหมู่บ้านในนั้น ฝ่ายปกครองต้องมา แต่ภารกิจไม่มา งบประมาณไม่มา ช่วงเวลาปกติผู้ว่าฯ เข้าไปยุ่มย่ามอะไรไม่ได้หรอก ที่จริงยังต้องมีฝ่ายมั่นคง มีเรื่องคาบเกี่ยวกับอีกจังหวัดคือลำปาง และป่าสงวน ของกรมป่าไม้ด้านแม่พริก ซึ่งนั่นก็ไม่มีงบ ไม่มีคน ไม่มีอะไรต้องมาเกี่ยวกับแหล่งไฟใหญ่สุดของประเทศแปลงนี้
ร่างกฎหมายเดิม เขียนให้มี การประกาศเขตโดยพื้นที่จังหวัด และ พื้นที่พิเศษ เพื่อสามารถดำเนินการโดยอาศัยฐานอำนาจจากกฎหมายใหม่ แต่ถูกตัดไปก่อนเข้าสภาฯ น่าเสียดาย เพราะป่าพื้นที่ปัญหาของเราข้ามจังหวัด ข้ามหน่วยเยอะมาก การจะมีแผนปฏิบัติการระหว่างปี เป็นสิ่งที่ขาดอยู่
นี่คือจุดที่ต้องเติมลงไป ในช่องโหว่มหาศาลของระบบราชการ
สิ่งที่เกิดในปีนี้ เป็นรูปธรรมโจทย์ตุ๊กตาให้กรรมาธิการขบคิดต่อ
กฎหมายอากาศสะอาดควรต้องมาแก้ปัญหาวิกฤติภาคเหนือได้
ลำพังประกาศเขต ให้อำนาจสั่งแบบพรบ.ปภ. ให้งบฉุกเฉิน ตั้งบทลงโทษหนักๆ ถ้าแค่นี้ยังแก้วิกฤตเหนือไม่ได้ครับ ขอท่านโปรดพิจารณาลึกถึงกระบวนการ วิธีบริหารใหม่ที่มุ่งสัมฤทธิ์ตัวสาเหตุโดยตรงด้วย
เรียนมาด้วยความคาดหวัง
เฟซบุ๊ก 5/4/67
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น