วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ : ไม่มีจุดความร้อน แต่รอยไหม้กว้างใหญ่รอบลำปาง





เปรียบเทียบภาพดาวเทียม
 แสดงจุดความร้อน hotspot กับ รอยไหม้ burned scars 
ของจังหวัดลำปาง 
ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ไม่สอดคล้องกัน


 เขตพื้นที่ตัวเมืองลำปางและอำเภอรอบๆ เช่น เกาะคา แม่ทะ ห้างฉัตร มีไฟไหม้พื้นที่ มีผลกระทบด้านมลพิษอากาศสูง แต่กลับไม่มีรายงานจุดความร้อน คาดว่า เป็นการเผาหลบดาวเทียมในช่วงชิงเผาก่อนประกาศห้ามเด็ดขาด






ภาพที่ 1 :     จุดความร้อนรอบตัวเมืองลำปาง
น้อยมาก 


ภาพแสดงจุดความร้อนระบบ viirs จากดาวเทียม Suomi-NPP / NOAA-20 / NOAA-21 โดยเว็บไซต์ Firms NASA ระหว่างวันที่ 1- 9 กุมภาพันธ์ 2567 โดยสั่งให้จุดความร้อนกลางวันเป็นสีแดง และจุดความร้อนกลางคืนเป็นสีเขียว ปรากฏว่า จังหวัดลำปางมีจุดความร้อนหนาแน่นในพื้นที่ตอนบน คือ แถวอำเภอแจ้ซ้อนรอบๆ อ่างเก็บน้ำกิ่วคอหมา พื้นที่ป่าในเขตอำเภองาวรอยต่อจังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นการไหม้ป่าแบบลามข้ามคืน จุดความร้อนแสดงสีแดงสลับเขียวอย่างชัดเจน




ขณะที่พื้นที่โซนล่างรอบตัวเมืองลำปาง มีจุดความร้อนน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด




ภาพดาวเทียม ชี้ว่าช่วง 10 วันแรกของเดือนกุมภาพันธ์ มีจุดความร้อนรอบๆ ตัวเมือง เขตอำเภอห้างฉัตร แม่ทะ เกาะคา บ้างประปราย และเป็นจุดสีแดง คือไฟกลางวัน ไม่มีไฟใหญ่คือไฟลามกลางคืนเลย



ภาพที่ 2 : รอยไหม้ในพื้นที่ไม่มีจุดความร้อน

ภาพดาวเทียม 
Sentinel-2 L1C ผ่านเว็บไซต์ Copernicus Browser แสดงภาพรอยไหม้ หรือ Burned Scars เขตจังหวัดลำปาง ฉายให้เห็นรอยไหม้จากการเผาที่โล่งขนาดใหญ่รอบๆตัวจังหวัด กินอาณาบริเวณไปถึงอำเภอรอบๆ คือ แม่ทะ ห้างฉัตร และ เกาะคา 

พื้นที่เขตนี้ไม่ใช่ป่า เป็นเขตเกษตรกรรมและที่โล่งชานเมือง เห็นได้ชัดเจนว่า เป็นรอยไหม้จากการเผาที่โล่งเกิดใหม่ 







ภาพที่ 3 : ภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อมกราคม ยังไม่มีการเผา 

และเมื่อเปรียบเทียบกับภาพดาวเทียมพิกัดเดียวกันที่ถ่ายเมื่อ 9 มกราคม 2567 คือเมื่อ 1 เดือนก่อน ที่ยังเป็นสีเขียวไม่มีรอยไหม้ปรากฏ แปลผลว่า การเผาขนาดใหญ่เพิ่งเกิดเมื่อไม่นาน ไม่เกิน 1 เดือน






การชิงเผาที่เคยปฏิบัติ กับ การชิงเผาปีนี้ 


ปีนี้จังหวัดลำปางไม่มีประกาศห้ามเผาเด็ดขาด เหมือนปีที่ผ่านๆ มา เพิ่งได้ออกประกาศเรื่อง กำหนดมาตรการขอความร่วมมือในการป้องกันและควบคุมไฟป่าและการเผาพื้นที่โล่งทุกชนิด ยกเว้นพื้นที่ตามแผนการบริหารจัดการเชื้อเพลิง เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2567 



ต่างจากปีก่อนๆ หน้า จะใช้วิธีการกำหนดวันประกาศห้ามเผาเด็ดขาด ทำให้ มีการระดมชิงเผาก่อนหน้ากำหนดห้ามเด็ดขาด แต่สำหรับปีนี้ ใช้ถ้อยคำใหม่ คือ ขอความร่วมมือไม่เผา และสำหรับผู้ต้องการเผาให้บริหารเชื้อเพลิงโดยการควบคุม

ถ้อยคำตามประกาศเขียนว่า -- "การบริหารจัดการเชื้อเพลิงให้เป็นไปตามหลักวิชาการ และแผนงานที่ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลพื้นที่แล้วเท่านั้น โดยให้มีการจัดทำแนวกันไฟป้องกันการลุกลามไปในพื้นที่ป่าใกล้เคียง ภายใต้การควบคุมของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากมีสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) รุนแรงในพื้นที่ ให้หยุดดำเนินการจนกว่าสถานการณ์เหมาะสม" --

สำหรับการชิงเผาหรือการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในช่วงเดือนที่ผ่านมา ถึงแม้ลำปางจะประกาศให้มีการบริหารเชื้อเพลิงโดยให้ขออนุญาตเสียก่อน แต่ก็ไม่พบรายงานต่อสาธารณะว่า ได้มีคำขออนุญาตไปเท่าไหร่ อนุมัติไปเท่าไหร่และได้รับผลอย่างไรบ้าง

มีเพียงรอยไหม้อย่างกว้างขวาง ในพื้นที่เกษตรและที่โล่งรอบๆ ตัวเมือง และการไหม้ในป่าแบบเปิดเผยในพื้นที่โซนเหนือของจังหวัด เขตอำเภองาว วังเหนือ แจ้ห่ม แจ้ซ้อน ซึ่งปรากฏเป็นจุดความร้อนทั้งวันทั้งคืน


ค่าอากาศแดงยาวนาน



ค่าคุณภาพที่สถานีวัดคุณภาพอากาศ Air4Thai ของรัฐบาล แสดงว่าตัวเมืองลำปางมีค่าคุณภาพอากาศสีแดงบ่อยครั้ง และสูงกว่าสถานีวัดของจังหวัดใกล้เคียง  

กราฟเปรียบเทียบจาก Air4thai ระหว่าง สถานีลำปาง เชียงใหม่ และ ลำพูน พบว่า ค่าฝุ่น pm2.5 ของลำปางสูงกว่าจังหวัดเพื่อนบ้านอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงที่มีการเผาไหม้ชิงเผา (โดยไม่ปรากฏจุดความร้อน) บริเวณพื้นที่อำเภอ





















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น