วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

คาหนังคาเขา #ซากเก้งที่ห้วยหมูเน่า






คาหนังคาเขา



เหตุเกิดที่ทะเลสาบเขื่อนภูมิพล เมื่อวาน (5ก.พ.) ช่วงสายๆ เจ้าหน้าที่อุทยานฯแม่ปิง ลาดตระเวนทางเรือ สามารถจับกุม ชาวบ้านลอบล่าสัตว์พร้อมของกลางเป็นซากเก้งตัวใหญ่กว่าอัลเซเชี่ยนในเรือ และก็นำผู้ต้องหาส่ง สภ.อ.สามเงา ตาก ดำเนินคดี

มันเป็นการจับกุมชนิด "คาหนัง-คาเขา" ตามสำนวนโบราณ เป็นประจักษ์พยานว่า พื้นที่ป่าใหญ่เหนือเขื่อนที่อุดมไปด้วยไฟป่านั้น มีปัญหามากมายในนั้น ทั้งการล่าสัตว์ ทำไม้ ของเถื่อน รวมไปถึงคนเถื่อนลักลอบเดินทางจากพรมแดน ขึ้นไปอมก๋อย บ้างลงทางถนน บ้างก็ลงทางน้ำ ฯลฯ

ไฟป่าก็มากและลามใหญ่ทุกปี เพราะป่ามันใหญ่โตขวาซ้ายขนาบทางน้ำรวมกันกว่า 2 ล้านไร่

การล่าสัตว์ และหาของป่า เป็นสาเหตุสำคัญของไฟแถวนั้น แต่ก็นั่นแหละ เวลาเจ้าหน้าที่รัฐชี้สาเหตุแบบนี้ มักจะถูกค่อนขอดว่า เหมาคลุม เอะอะก็กล่าวหาชาวบ้านเผา ชาวบ้านล่า ฯลฯ

สำหรับผมเหตุของไฟหลากหลายมาก ขึ้นกับบริบทพื้นที่ นอกจากการเผาของรัฐแบบที่ไม่เข้าท่าซึ่งนำเสนอไปหลายตอน ก็ต้องบอกว่ามีเหตุจากชาวบ้านเยอะทีเดียว ทั้งของป่า เห็ด ผัก และล่าสัตว์

บอกเลยว่าผมไม่ใช่พวกโลกสวย !

ราชการผมด่านะด่าตรงๆ และกับชาวบ้านผมก็ไม่ยอมหรอก หากเผาเรื่อยเปื่อย ถ้าเผาป่าล่าสัตว์ก็ด่าชาวบ้านด้วย สมควรครับ !

และผมก็ไม่ยอมรับทฤษฎีต้องเผาโม่งเห็ดทุกโม่งเพื่อเศรษฐกิจชุมชน เอะอะก็สิทธิชุมชนว่าไปเรื่อย ... เพราะการเผาเอาประโยชน์จากป่า ต้องมีความพอดี ย้ำว่าต้องพอดีๆ !

ชาวบ้านควรได้ประโยชน์จากป่าบ้าง เอาเห็ดได้เอาผักป่าได้พอสมควรแก่อัตภาพ ไม่ใช่เผาทั้งป่าสาธารณะ สามารถขายส่งตลาดเป็นคันรถ นั่นนายทุนน้อยแล้วไม่ใช่ชาวบ้านเซาะว่าหากิ๋น ชาวบ้าน 1 ชุมชน กับโม่งเห็ดกี่โม่งดีล่ะ ที่เหมาะสม !!? 

เอาสิทธิชุมชนเก็บเห็ดเป็นที่ตั้งเผาทีหมื่นแสนไร่ แล้วสิทธิคนดมล่ะครับ ดังนั้นมันต้องพอดีๆไง


ปีนี้รัฐให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ไฟแปลงใหญ่ โดยเฉพาะสามป่าเหนือเขื่อน ที่เพิ่งจับล่าสัตว์คาหนังคาเขานี่ล่ะ

มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเขื่อนภูมิพล บูรณาการกันสามจังหวัด และยกระดับการป้องกัน จุดตรวจ จุดสกัด ลาดตระเวน

การลาดตระเวนทางน้ำของชุด อช.แม่ปิง ครั้งนี้ก็อยู่ภายใต้ปฏิบัติการยกระดับครั้งนี้ โดยลงมาตั้งแพจุดสกัดที่บริเวณห้วยหมูเน่า ในเขต อ.สามเงา ตาก พิกัดไฟใหญ่ซ้ำซาก เอ่อ.. อช.แม่ปิงใหญ่นะครับ กินพื้นที่จากลำพูนลงมาถึงตาก ฝั่งด้านขวา ต่อเขตกับ ที่ทำการเขื่อน กฟผ.

การตั้งจุดสกัดทางน้ำนี่เพิ่งเป็นปฏิบัติการ ชาวบ้านจึงไม่รู้ จึงล่องเรือพร้อมซากเก้งลงมาสบายเฉิบ เพราะก่อนๆ นั้นพื้นที่แถวนี้มันเปลี่ยว ไม่มีคนนอก ไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำ เพราะส่วนใหญ่อยู่บน-ล่างของอ่างทะเลสาบ ก่อนนี้คงล่าเสร็จคงล่องมาสบายๆ หลายหน

มันจึงเป็นหลักฐานสวมรับกับทฤษฎีที่ว่า มีการเผาป่าเพื่อล่าสัตว์โดยพรานที่มาทางเรือ จอดเรือที่ร่องน้ำและขึ้นบกไปล่า

และการล่าก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งจริงๆ ของไฟใหญ่สามป่าเหนือเขื่อน เจ้าหน้าที่เขาบอกประเด็นนี้มานานแล้ว แต่สังคมส่วนใหญ่โดยเฉพาะฝ่ายสิทธิชุมชนไม่ค่อยเชื่อกัน ฝ่ายทางนี้ปักใจว่าไฟมาจากราชการเป็นหลัก อือ....


ชาวบ้านกับป่าไม้ส่วนใหญ่ไม่ถูกกันหรอก เป็นปฏิปักษ์แทบทุกป่าในภาคเหนือ (มีน้อยที่เข้ากัน) และป่าไม้ก็ชอบจับไม้ จับล่าสัตว์ และห้ามเข้าป่า แค่ตั้งด่านตรวจเขาไม่ชอบ มีเรื่องเล่าจากหลายแห่งเหมือนๆ กัน เช้าจับกุม พอกลางคืน ไฟมาเลย เป็นสิบกองให้ดับ เล่นกันเถิด
ทางสามป่านี่ก็เหมือนกัน ชาวบ้านเขาเชื่อฝ่ายปกครอง ปลัดอำเภอมากกว่า ทางป่าไม้ ความสัมพันธ์ไม่ดีเท่า

เมื่อวานมีเหตุจับกุมฝั่งแม่ปิง สามเงา (ซีกขวาของอ่าง) วันเดียวกันอีกฝั่งซึ่งเป็นที่ตั้งหมู่บ้านผู้ต้องหา ก็เกิดเรื่องเลย

ผู้ต้องหาอยู่บ้านโสมง หมู่ 4 ต.บ้านนา อ.สามเงา อีกฝั่งของอ่าง (ซีกซ้าย) และเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น (หนึ่งในสามของป่าเหนือเขื่อน)

แม่ปิงจับกุม แม่ตื่นรับผลกระแทกเฉย ! มีข่าวว่าชาวบ้านลองของ ขโมยป้ายไวนิลติดจุดตรวจเข้าออกป่า นานมาแล้วเคยมีกรณีเผาด่านด้วยซ้ำ คราวนี้ดีแค่ขโมยป้ายจุดตรวจ แสดงปฏิกิริยาต่อต้านออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม




ปกติสามป่าเหนือเขื่อนเริ่มเผาปลายมกราคม และจะเผาจริงจังในเดือนกุมภาพันธ์ ชนิดเผาๆๆเป็นแสนไร่ ลามเป็นเดือนพอเข้ามีนาคมก็จบ
ปีนี้ชื้นใบไม้ชะลอทิ้งใบ ฤดูไฟล่าไปสองสัปดาห์ พอมีเวลาหายใจหน่อยแต่ตอนนี้ก็เริ่มแล้ว อีกสัปดาห์คาดว่าพร้อมเผา

ฝุ่นควันจากสามป่าเหนือเขื่อนมีผลกระทบสูง เพราะเผาต่อเนื่องด้วยเชื้อเพลิงชีวมวลเป็นแสนๆ ตัน ลมหอบขึ้นทางเหนือ เข้าแอ่งเชียงใหม่ลำพูน และแบ่งไปแอ่งลำปางทางเถินด้วย

ปีนี้จะเป็นเช่นไรน่าระทึกใจไม่น้อย เพราะแค่เริ่มต้นปฏิบัติการมันก็ไปกระทบกับวิถีเดิมๆ ของชาวบ้านเจ้าถิ่นแล้ว และก็เริ่มปฏิกิริยาแล้ว

ในระยะยาว การพัฒนาเศรษฐกิจปากท้องชุมชน รวมทั้งพัฒนา
สาธารณูปโภคแค่โทรศัพท์ก็ไม่ถึงนะครับ นัดหมายคุยกันต้องไปจุดสูงที่มีสัญญาณ เดินทางจากตลาดในอำเภอเข้าชุมชนทีครึ่งวันไม่ถึง แต่ในระยะเฉพาะหน้า ฤดูฝุ่นปีนี้ ที่รัฐตั้งเป้าแล้วว่า สามป่าต้องลดให้ได้ 50%

คือลดไฟลงมาจาก 8.4 แสนไร่ ให้เหลือ 4.2 แสนไร่ให้ได้ ยากทีเดียวเลยล่ะครับ ภายใต้เงื่อนไขบริบทสภาพการณ์แบบที่เป็นอยู่

เป็น Miision Impossible ep. ใหม่ ที่เริ่มเปิดฉากด้วยการจับเก้งคาหนัง-คาเขา

(edit ได้รับแจ้งว่า กำหนดการเปิดศูนย์ปฏิบัติการเขื่อนภูมิพล เลื่อนจาก 13 ก.พ. เป็น 20 ก.พ.)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น