10 ปีวิกฤตการเมืองไทย

2549 เป็นปีที่เกิดการประท้วงใหญ่ รัฐบาลทักษิณยุบสภา ตามมาด้วยการเลือกตั้งอลเวงและรัฐประหาร ถ้าไม่นับการกลับมากราบแผ่นดินช่วงสั้นๆ พอให้บริวารตามแห่ ก็จะครบสิบปีแล้ว

สิบปีมานี้เป็นเวลาที่แผ่นดินไทยร้าวลึกที่สุด ดัชนีเศรษฐกิจลูกผีลูกคนปีเว้นสองปี เป็นความชะงักงันเหมือนเอาเวลาสิบปีทิ้งไปเปล่าๆ ปลี้ๆ อย่าโทษชนชั้นนำ บรรดานายทุน บิ๊กบอส แกนนำแต่ละกลุ่มแต่ละเหล่าแต่เพียงฝ่ายเดียวเลย คนไทยแทบทุกคน เรา ท่าน นี่แหละ ต้องมีส่วนรับผิดชอบในความผิดปกติของแผ่นดินนี้ด้วย ไม่มากก็น้อย ... ผมก็ด้วย!


จะออกจากวิกฤตไม่สามารถถอยหลังกลับไป...มีแต่ต้องเดินหน้าออก

การเดินหน้าออกไปจากวังวนนี้ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสังคมการเมืองและทัศนคติพฤติกรรมของคนไทยก้าวพ้นไปจากเดิม ให้เป็นการเปลี่ยนเชิงคุณภาพให้ได้

ไม่ใช่ยังติดกับความคิดแบบเดิม แบบเช่น... ก็ทีพวกมันทำได้ เพิ่งเป่านกหวีดทำมาหยกๆ ทำไมฝ่ายเราจะทำไม่ได้ / ทีพวกมันโกงได้ ทำไมฝ่ายเราจะโกงบ้างไม่ได้ โกงเล็กน้อยเอง / อย่าว่ากูเลวนะ พวกมึงก็เลวเหมือนกัน ว่าแล้วก็ไปคุ้ยความเลวของอีกฝ่ายมานำเสนอเพื่อจะการันตีให้พ่อคุณทูนหัวฝ่ายตัวเองได้โกงสะดวก ฯลฯ

เราเคยมีการชุมนุมคนเป็นล้าน เรียกหาการปฏิรูป ๆๆ ปัดโธ่โถ ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง แปลว่าอะไร ? ที่แท้คำว่าปฏิรูปสำหรับคนหลายคน ก็แค่ข้ออ้างให้เปลี่ยนรัฐบาลที่กูไม่ชอบหน้า ส่วนการกระทำจริงจะปฏิรูปหรือไม่ปฏิรูปช่างแม่ง ... คนที่คิดแบบนี้ คือพวกหลอกตัวเอง ไม่ได้เชื่อและศรัทธาในเนื้อหาปฏิรูปจริง นกแก้วนกขุนทองไปตามแกนนำลากจูง ...ปากบอกเกลียดการทุจริตคดโกง แต่พอฝ่ายตัวเองโกง บอกว่าเล็กน้อย ให้ดูกันไป ฯลฯ

ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่ได้คิดจะสร้างการเมืองคุณภาพอะไรขึ้นมา เอะอะก็ยังตามแห่แหนพี่น้องชินวัตร ยังอาศัยกระแสคิดหลอกลวงให้คนออกมาชุมนุมเพื่อจะเปลี่ยนรัฐบาล โดยไม่เปลี่ยนเนื้อหาของการเมืองแบบลิ่วล้อพ่อทูนหัว

... หลอกให้คนออกมาต่อต้านรัฐบาล โดยอ้างว่าตัวเองไม่ชอบการคดโกง มันก็ไม่ต่างจาก กำนันหลอกให้คนเชื่อว่าจะมีการปฏิรูปจริง ที่แท้ก็ชวนทหารเข้ามาเปลี่ยนมือ สมบัติผลัดกันชม ก็เท่านั้น

ประเทศนี้จะไม่สามารถก้าวพ้นไปจากปลักโคลนแห่งวิกฤติการเมืองได้เลย หากว่า ประชาชนหลุดไม่พ้นกับดัก ความคิด และความเชื่อของตัวเอง

9 ธันวาคม 2558