ผมไม่เชื่อในทฤษฎีพัฒนาการ

ผมไม่เชื่อในทฤษฎีพัฒนาการ

แบบที่บอกว่าปล่อยให้เลือกตั้งไปเลย ให้คนเรียนรู้ อย่าไปแทรกแซงระบบ ดูอังกฤษสิกว่าจะพัฒนาจากกษัตริย์-ขุนนางมาเป็นแบบปัจจุบันต้องผ่านเวลาเป็นร้อยๆ ปี ...ฯลฯ

วิธีคิดแบบนี้ พูดง่าย แถมดูดี แบ่บบบบ...เอิ่มมม.... ก้าวหน้าๆ อ่ะ


คนที่คิดแบบนี้ สามารถจะพูดได้เต็มคำว่า ให้ทหารลงไปวันนี้ วันมะรืนเลือกตั้ง เอาประชาชนหนึ่งสิทธิ์หนึ่งเสียงเป็นคำตอบสุดท้าย แน่นอนที่ซู้ดด! มันอาจจะมีโกงบ้างไรบ้างนิดหน่อย โกงแต่ทำงาน โกงแต่ประชาชนได้อิ่มด้วย ยังดีกว่าโกงเฉพาะพวกอยู่ข้างบน

คนที่คิดแบบนี้ เชื่อในทฤษฎีที่ว่า ประชาชนและระบบต่างๆ จะปรับตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เช่นหากมีตัวแทนได้รับเลือกตั้งเข้าไปโกง สังคมจะค่อยๆ มองเห็นแล้วปฏิเสธ สังคมจะกดดัน ให้ตัวแทนเหล่านั้นจัดการบรรดานักโกงกินด้วยตัวเอง

คนที่คิดแบบนี้ มักจะเชื่อว่า ต้องเดินให้ถูกต้องในระบบ/ระบอบเสียก่อน ดังนั้นจะไม่ยอมเอาตัวไม่เกี่ยวข้อง หรือไม่ยอมรับอำนาจใดๆ ของทหารที่มายึดอำนาจ เพราะว่ามันผิดแทร็ก ...ระบบที่ผิด ย่อมไม่นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ถูกต้องได้ !!! อืมมม์ นี่เป็นชุดความคิดพื้นฐานของนักก้าวหน้าเหล่านี้นะครับ

แต่ผมคนนึงล่ะ ที่ไม่เชื่อในทฤษฎีพัฒนาการแบบที่ว่า!!

เพราะการปล่อยให้สังคมเรียนรู้กันเอง ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปนั้น...ไม่มีหลักประกันอะไรเลยว่า ผลลัพธ์ของมัน...จะไม่นำมาซึ่งความรุนแรง จลาจล ล่มสลาย บ้านแตกสาแหรกขาด หรือกระทั่งการล่มจมไปทั้งสังคม

พวกคุณยกแต่ตัวอย่างอังกฤษซึ่งมีพัฒนาการมาตั้งแต่โน่นนนน...แถวๆ กรุงศรีอยุธยายังเป็นราชธานี ทำให้คนหลงเพ้อตาม...แต่พวกคุณไม่ได้ยกตัวอย่างของสังคมในยุคเดียวกัน ที่มีปัจจัยแวดล้อมแบบเดียวกัน..ก็คือหลังสงครามโลก

ฟิลิปปินส์ ไล่มาร์คอสเมื่อปี 1986 มาถึงวันนี้ใกล้ 30 ปีแล้ว...ที่ไม่มีรัฐประหาร ค่อยๆ พัฒนาการประชาธิปไตยหนึ่งสิทธิ์หนึ่งเสียง ยอมๆ กันไปกับนักการเมืองขี้โกง ดีๆชั่วๆ มั่วๆ กันมา...

แล้วฟิลิปปินส์วันนี้เป็นยังไง?

ทั้งๆ เมื่อ 40 กว่าปีก่อน ฟิลิปปินส์มีพัฒนาการสูงมากของเอเชียเลยนะครับ คนไทยเรายังไปเรียนต่อฟิลิปปินส์ก็มี คือถ้าไม่เรียนปีนัง ก็ไปเรียนฟิลิปปินส์ล่ะวะ!!?

นี่ก็ทฤษฎีพัฒนาการแบบเดินให้ถูกในแทร็กเลือกตั้งไว้ก่อน เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง..แล้วเป็นไงครับ การเมืองอาจจะค่อยๆ เรียนรู้ขึ้นมา แต่ประเทศมันจมไปแล้ว !!

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ อย่าเหมารวมโง่ๆ แบบนักก้าวหน้าเห่ยๆ นะ ว่าผมหนุนรัฐประหาร ..คือถ้าสรุปแบบนี้ก็สมแล้วล่ะที่เขาเรียกว่าก้าวหน้าฟันน้ำนม

ที่ยกมาทั้งหมด เพื่อจะบอกว่า ในยุคสมัยที่โลกมันหมุนเร็ว มีปัจจัยแวดล้อมที่ไม่เหมือนกับยุคแมกนาร์กาต้า อำนาจบารอนอะไรของฝรั่งยุคคลาสสิคแล้ว

เราปล่อยให้ค่อยเป็นค่อยไปไม่ได้ ค่อยๆ เรียนรู้ ไอ้เหียกพวกนั้นมันเจาะชาติพรุน ... พังยับไปก่อนที่ประชาชนค่อยผงกหัวขึ้นมาเรียนรู้แล้ว

มีแต่ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว อะไรที่ไม่ดี ขจัดออกไปเอาของใหม่มาใส่ให้เป็นเรื่องเป็นราวเป็นแบบเป็นแผน

ในนามของการปฏิรูป!

ปฏิรูปทั้งเชิงระบบและเชิงโครงสร้าง แปลว่า มีกระบวนการของสังคมที่ปรับปรุงระบบกลไกทั้งหลายไว้ก่อน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง รองรับเป้าหมายเจตนาใหม่ๆ

ซึ่งเรื่องการปฏิรูปนี้ ค่อยมาว่ากันอีกทอดว่าปฏิรูปจริงๆ กับปฏิรูปกลวงๆ ปฏิรูปเพื่อผู้ปกครอง กับปฏิรูปเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ มันก็แตกต่างกันสิ้นเชิง.

26/9/2558