ครบรอบ 100 ปี นามพระราชทานสุราษฏร์ธานี
วันที่ 29 กรกฎาคม 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯ เสด็จเลียบมณฑลปักษ์ใต้ พลับพลาที่ประทับอยู่บนควนท่าข้าม (อ.พุนพิน) ทรงพระราชทานนามที่ประทับนั้นว่า สวนสราญรมย์ ซึ่งที่ตรงนั้นต่อมาก็เป็นที่ตั้งของรพ.สวนสราญรมย์ และพระราชทานนามชื่อจังหวัดว่า สุราษฏร์ธานี พร้อมกับเปลี่ยนชื่อแม่น้ำหลวงที่ไหลเลียบเลาะท่าข้ามและที่ควนที่ประทับว่า แม่น้ำตาปี
ครบรอบร้อยปีพอดีในปีนี้!
ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ หาได้ทั่วไปบอกว่า ชื่อสุราษฎร์ธานี แปลว่าเมืองคนดี ได้มาจากเมืองสุรัต จากประเทศอินเดีย และเมืองแห่งนั้นมีแม่น้ำใหญ่ชื่อ แม่น้ำตาปฺติ จึงทรงเรียกแม่น้ำให้คู่นามเมืองว่า ตาปี
ทำไม? สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้าทรงประทับใจชื่อเมืองสุรัต ถึงขนาดนึกขึ้นได้แล้วเอามาตั้งชื่อเมือง...ทั้งๆ ที่ประเทศอินเดียกว้างใหญ่มหาศาล มีเมืองใหญ่น้อยมากมายให้เลือก ?
เรื่องนี้ไม่ค่อยมีคนกล่าวถึง กระผมจะขอวินิจฉัยในเชิงวิเคราะห์วิจารณ์ ซึ่งความเห็นนี้สามารถโต้แย้งได้นะขอรับ...
พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯ ทรงเป็นนักเรียนอังกฤษ ได้รับการศึกษาอย่างดียิ่งในฐานะคราวน์ปรินซ์ของประเทศสยามซึ่งมีสัมพันธไมตรีของอังกฤษ แล้วก็ทรงเรียนเก่งอีกต่างหาก ทรงเรียนทหารก็จริงแต่ควบคู่กันก็เรียนประวัติศาสตร์และกฏหมาย เรียกว่าเตรียมพร้อมสำหรับกษัตริย์องค์ต่อไปเลยทีเดียว
ยุคนั้นเป็นยุคที่อังกฤษเป็นดินแดนตะวันไม่ตกดิน แล้วก็เห่อวิชาภารตะวิทยา อินเดียซึ่งเป็นดินแดนที่ผนวกเข้ามาเป็นอาณานิคม นักเรียนอังกฤษไม่ว่าใครในยุคนั้นต้องรับกลิ่นอายอินตระเดียมาไม่มากก็น้อย ขนาดดร.ดิเรก ของ ป.อินทรปาลิต ยังมหาราชาอยู่นั่น...
นักเรียนประวัติศาสตร์ (อย่างรัชกาลที่6) ย่อมต้องได้เรียนรู้ว่าตอนที่อังกฤษเริ่มมีกำลังวังชาทางนาวีมากพอนั้น ประเทศตะวันตกอย่างสเปน ฮอลันดา โปรตุเกส เขานำหน้าไปลิบแล้ว ตอนที่อังกฤษเข้าไปถึงอินเดีย ตอนนั้นฝรั่งชาติอื่นปักธงเปรอะไปแล้ว
โปรตุเกสอ้อมกู๊ดโฮปไปถึงอินเดียตั้งแต่ 1500 ต้นๆ ส่วนอังกฤษเริ่มซ่าก็หลังค.ศ.1700 ไปแล้วโน่น อินเดียน่ะถูกโปรตุเกส ดัทช์ เจาะเสียพรุนไปแล้ว ถ้าหลับตานึกถึงประเทสอินเดียแหลมๆ เรียวๆ คล้ายหัวใจ ไอ้ฝั่งทางซ้ายที่ติดอาหรับนั่นล่ะครับ พวกฝรั่งไล่จองไว้แต่แรกที่เดินเรือไปถึง...ดินแดนส่วนที่ดัทช์จองไว้ คือแถวๆ เหนือเมืองสุรัตขึ้นไป ส่วนโปรตุเกส ยึดครองแถวเมืองกัว ลงไปถึงสุดปลายแหลมใกล้ศรีลังกา
อังกฤษย่างเท้าเข้าชมพูทวีปครั้งแรกๆ ตรงที่เมืองสุรัต ชายฝั่งตะวันตกค่อนมาทางเหนือๆ หน่อยของอินเดีย แล้วก็พัฒนาเมืองสุรัตเป็นเมืองท่าของตนเอง แข่งกับฝรั่งชาติอื่นก่อน .... จากนั้นค่อยๆ แผ่ขยาย รบกับฝรั่งกันเองแล้วที่สุดค่อยยึดอินเดียได้
เมืองสุรัตจึงสำคัญสำหรับอังกฤษ เป็นชื่อที่คุ้นเคยสำหรับผู้ที่เรียนรู้ประวัติศาสตร์อังกฤษ/ ภารตะวิทยา/และกลุ่มนิยมอังกฤษอยู่ไม่น้อย เมืองนี้มันเป็นเมืองหัวหาด หรือหมุดหมาย ประมาณว่าเรียนประวัติศาสตร์ไทยก็ต้องเอ่ยถึงสุโขทัยประมาณนั้น
สุรัตคงเป็นชื่อที่ทรงต้องร่ำเรียนถึง แล้วก็คุ้นเคยเป็นลำดับต้นๆ เพราะอะไรต่อมิอะไรของอังกฤษเริ่มต้นแถวๆ นั้น....ต่อมาเมื่อกลับมาสยาม จึงทรงนำชื่อเมือง สุรัต ที่คุ้นเคยมาตั้งเป็น สุราษฏร์ธานี
เรื่องมันก็เป็นมาฉะนี้ ... ส่วนที่ลึกลงไป เช่นเมืองสุราษฎร์ ท่าข้าม บ้านดอน ไชยา แห่งนี้เก่าแก่มาก่อน ถูกแน่นอนครับ หลักฐานยืนยันว่าสามารถย้อนไปเป็นพันปี แต่ก็นั่นแหละ ยุคหลังมานี้มีแต่พวกตีกิน พวกอุปโลกน์อิงการเมืองอยู่ไม่น้อย เที่ยวหยิบเกร็ดประวัติศาสตร์กระซิบของท้องถิ่นมารับใช้ตระกูลการเมือง อันนี้ค่อยว่ากันอีกรอบ!
ป.ล.ได้ภาพจากเฟซบุ้คพี่ชายที่คุ้นเคยกันมาแต่เด็ก เอามาไม่ขออนุญาต ขออนุญาตตรงนี้เลยและขอเอ่ยนาม ดาว บ้านดอน (ถูกเฟซบุ้คบังคับเปลี่ยนชื่อจริงอย่าว่ากันเน้อ ฮาๆ) ส่วนแผนที่เมืองสุรัต (กากบาทสีแดงๆ ริมทะเลนั่นล่ะ) ได้จากอินเตอร์เน็ต คงไม่มีใครมาฟ้อง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น