สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นอีกหนึ่งมหาราชกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ กษัตริย์พระองค์นี้จึงเป็นหนึ่งในเจ็ดของอนุสาวรีย์บูรพกษัตริย์ในโครงการอุทยานราชภักดิ์ ที่กำลังใกล้แล้วเสร็จ
พระราชกรณียกิจของพระองค์ที่โดดเด่นคือการสงคราม ไปตีเชียงใหม่ซึ่งตอนนั้นเป็นของพม่าแถมข้ามไปตีหัวเมืองพม่าอีกหลายเมือง เปิดสัมพันธ์กับชาวต่างชาติระดับส่งคณะทูตไปเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 มีลูกเล่นทางวิเทโศบาย ฯลฯ
ประวัติศาสตร์บอกว่าไม่ครองใจราษฎรเท่าไหร่ แปลเป็นภาษาง่ายๆ คือ ทรงดุ ว่างั้น! แต่สำหรับบทบาทการแผ่ขยายอิทธิพลอำนาจของราชสำนักกลับโดดเด่นชัดเจน
กษัตริย์ที่เก่งๆ ในประวัติศาสตร์ไม่ว่าไทยหรือเทศนี่เหมือนกันอย่าง ก็คือความห้าวหาญเด็ดขาดตามแบบแผนของกษัตริย์ยุคนั้น คือถ้าไม่แข็ง ไม่ห้าวก็ไม่ได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ยิ่งใหญ่ไม่ได้ว่างั้นเหอะ อย่าง หลี่ซื่อหมิน พระเจ้าถังไท่จงฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของจีน ฆ่าพี่ฆ่าน้องปลดพ่อไปแขวนแล้วก็ขึ้นครอง นำต้าถังยิ่งใหญ่เป็นยุคทอง
สมเด็จพระนารายณ์ท่านก็ขึ้นในลักษณะเดียวกัน กล่าวคือเมื่อสิ้นพระราชบิดา สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง แล้ว สมเด็จเจ้าฟ้าไชยโอรสจากอัครมเหสีขึ้นครองราชย์ แต่อยู่ได้ไม่นานก็ถูกสมเด็จพระนารายณ์น้องชายต่างพระมารดาร่วมมือกับ สมเด็จอา พระนามว่า สมเด็จพระศรีสุธรรมราชา (น้องของพระเจ้าปราสาททอง) ทำรัฐประหาร ชิงสมบัติแล้วพระเจ้าอาก็ขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 7
แต่ต่อมาแค่สองเดือนเท่านั้น สมเด็จพระนารายณ์ก็ยกกำลังไป กระทำรัฐประหารซ้อน สำเร็จโทษสมเด็จพระเจ้าอา พระศรีสุธรรมราชา ประวัติศาสตร์บอกว่ารบกันดุเดือด ทางฝ่ายสมเด็จพระนารายณ์มีกองกำลังทหารอาสาต่างชาติ ญี่ปุ่น และแขกเปอร์เชีย (เจ้าเซน) ร่วมช่วย จึงไม่แปลกที่รัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์ใช้งานอาสาต่างชาติญี่ปุ่น แขก ฝรั่งหลากหลายมาก
สำเร็จโทษพระเจ้าอาแล้วก็ ปราบดาภิเษก ขึ้นเถลิงพระราชสมบัติ เป็นมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ดังที่ทราบกัน
ศัพท์คำว่า ปราบดา นี่ใช้สำหรับกษัตริย์ที่ขึ้นครองราชย์ด้วยการต่อสู้แย่งชิง หรือรัฐประหารได้มา ต่างจากกษัตริย์ที่สืบอำนาจจากองค์เดิมโดยเรียบร้อยละมุนละม่อม
เวลาจะใช้คำว่า ปราบดาภิเษก นี่ต้องดูข้อเท็จจริงของประวัติศาสตร์ด้วย จะใช้กับกษัตริย์ทุกพระองค์ไม่ได้ พจนานุกรมบอกไว้ชัด [ปฺราบ-ดา-พิ-เสก] (สก. ปฺราปฺต + อภิเษก) ว. มีอภิเษกอันถึงแล้ว หมายถึง พระเจ้าแผ่นดินผู้รบชนะศึกแล้วจึงได้ราชสมบัติ นักเรียน นักศึกษา หรือ กระทั่งสื่อต้องแยกกันให้ดีระหว่างคำว่า บรมราชาภิเษก ภาษาไทยเรามีแบ่ง มีแยก มีชั้น มีเชิง ลงรายละเอียดกุ๊กกิ๊กมากกว่าภาษาอื่นก็ตรงนี้
ในบรรดากษัตริย์ในอดีต ผมคิดว่าสมเด็จพระนาราย์มหาราชทรงมีความชัดเจนมากในฐานะผู้ประสบความสำเร็จในการรัฐประหาร ก่อนปราบดาภิเษกเสวยราชสมบัติ เป็นฝ่ายชนะในการรัฐประหารสองครั้งซ้อน ในยุคนั้นถ้าแพ้ก็เป็นกบฎสถานเดียว
(คำเตือน เวลาอ่านประวัติศาสตร์ท่านควรจะย้อนตัวท่านให้เข้าใจถึงขนบ ความคิด แบบแผนคติของคนยุคนั้นด้วย จะเพิ่มความเข้าใจขึ้น เป็นสิ่งปกติมากที่เรื่องหรือคติหลายอย่างในอดีตอาจไม่เป็นที่ยอมรับของคนในปัจจุบัน ทั้งๆที่เป็นเรื่องปกติในยุคนั้น)


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น