วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ปีนังหลัง 2475



‪#‎ปีนัง‬ หลัง 2475

หลังปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง เจ้านายราชนิกูลจำนวนไม่น้อยถูกบังคับ/กดดันให้ไปพำนักยังต่างประเทศ โดยเฉพาะองค์ที่คณะราษฏรเห็นว่ามีพลังหรือมีบทบาทสำคัญ

เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์ฯ ท่านปู่ของคุณชายสุขุมพันธุ์ไปอยู่บันดุง เมืองชวา ซึ่งเป็นอาณานิคมของดัทช์ กรมนครสวรรค์นี่เป็นเบอร์แรกๆ ที่ฝ่ายคณะราษฏรล็อกเป้าไว้ เพราะเป็นผู้คุมกำลังทหาร เช้าวันนั้นตอนที่ทหารฝ่ายคณะราษฎรไปจับพระองค์มีเหตุขนาดควักปืนออกมาใส่กันด้วย คือกรมพระนครสวรรค์นี่ท่านเป็นที่เขม่นของทั้งฝ่ายเจ้าและฝ่ายราษฏร์ เพราะมีบารมีทางทหาร ฝ่ายเจ้าบางคนมองว่าท่านอาจจะมีกำลังมากพอจะแย่งชิงบัลลังก์จาก "สาย" ที่กำลังขึ้นครอง ครั้นพอมายุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง ท่านเป็นเป้าหมายลำดับหนึ่งอยู่ดี


นอกจากบันดุงแล้ว เมืองที่ฝ่ายเจ้าลี้ภัยไปอยู่มากอีกแห่งคือปีนัง เพราะราชวงศ์ไทยใกล้ชิดกับอังกฤษมาก่อนแถมอยู่ใกล้ มีรถไฟวิ่งเชื่อมถึงกันใกล้มากขนาดกรมพระยานริศฯ (เมื่อครั้งเป็นกรมพระ) กับ กรมพระยาดำรงฯ สามารถเขียนจดหมายส่งไปมา พิมพ์สาสน์สมเด็จเป็นเล่มได้ปึกใหญ่

เหตุการณ์ที่ปีนังเป็นประวัติศาสตร์ฉากหนึ่งของการเมืองไทยยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองที่มีผู้เขียนถึงไม่มาก นอกจากสาส์นสมเด็จแล้ว คอประวัติศาสตร์การเมืองต้องอ่านงานของม.จ.หญิงพูนพิศมัย ดิศกุล พลาดไม่ได้ เติมจิ๊กซอว์ความเข้าใจเหตุการณ์ให้ครบฝ่าย

ต่อมาไม่นาน ผู้ที่ถูกเนรเทศหน้าใหม่อีกคนหนึ่งที่ไปอยู่ที่ปีนังก็คือ พระยามโนปกรณ์นิติธาดา นายกรัฐมนตรีคนแรก ถูกจี้ให้ลงจากตำแหน่งแล้วเนรเทศไปตายที่ปีนัง เหมือนกรมพระสวัสดิวัตน์ฯ พี่ชายของพระนางเจ้ารำไพพรรณี ต้นตระกูลสวัสดิวัตน์ ที่คุ้นเคยกันนี่ล่ะครับ นี่ก็ไปสิ้นที่ปีนัง งานศพจัดที่วัดปิ่นบังอรแบบทุลักทุเลพอสมควร ผมเคยไปตามหาดูสถานที่จริงด้วย

เอาบทความเก่า ‪ที่บรรจุศพพระยามโนปกรณ์ฯ‬ เมืองปีนัง ที่นั่นก็เป็นที่จัดงานศพกรมพระสวัสดิ์ด้วยครับ เขียนไว้่ปี 54 ไปงัดมาย้อนรำลึก ครบรอบ 24 มิถุนายน / ย้ำมาหลายรอบแล้วว่าประวัติศาสตร์มีไว้ให้ทบทวนย้อนดู เพื่อให้เห็นปัจจุบัน ไม่ว่าฝ่ายไหนก็มีมุมขาวและมุมดำ ไม่มีใครเป็นพระเอก

คลิกอ่านบทความ ประกอบ

http://www.manager.co.th/Columnist/ViewNews.aspx…

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น