วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สมบัติเขื่อนยันฮี 1 : เกริ่น





น้ำแล้งมาก ในรอบ 50 ปีนับแต่สร้างเขื่อนแบบนี้ สิ่งที่ผมอยากทำที่สุดตอนนี้ก็คือนั่งเรือหางยาวจากเมืองฮอดเชียงใหม่ลงไปถึงเขื่อนภูมิพล ตามร่องน้ำปิงสายเดิม ที่แม้จะไม่ใช่แม่น้ำแล้วแต่ก็น่าจะเห็นเค้าอยู่บ้าง

 ตามรอยแม่น้ำ!

เรื่องการสร้างเขื่อนยักษ์แห่งแรกของไทยตลอดถึงชีวิตของแม่น้ำปิงจากเชียงใหม่ ลำพูน มาถึงอ.สามเงา จ.ตากระยะทางประมาณ 100 ก.ม.กลมๆ นี่ มีสีสันมาก ยิ่งเขียนในพ.ศ.นี้ย้อนรำลึกลงไป ผมว่าได้เป็นเล่มเลยนะ

เขื่อนภูมิพลตัดสินใจสร้างกันเมื่อ 2495 อนุมัติ 2496 ในสมัยรัฐบาลจอมพลป. ในยุคนั้นเป็นยุคของการลงทุนสร้าง infrastructure เป็นกระแสหลักของทั่วโลกหลังสงคราม เวิลด์แบงก์เอาเงินมาล่อ เอามั้ยๆ ๆ เขื่อน ที่จริงยุคนั้นเราไม่ขาดน้ำ ไม่ได้คิดเรื่องชลประทานอะไรมากเพราะอุดมสมบูรณ์ดี แต่ที่เราขาดก็คือ "ไฟฟ้า" ครับ

โครงการเขื่อนผลิตไฟฟ้ายันฮีจึงกำเนิดขึ้นมา โดยการทำคลอดของฝรั่งเวิลด์แบงก์กับรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม

จน 2500 โน่น จึงค่อยพระราชทานนามชื่อเขื่อนใหม่แทนชื่อยันฮี แต่การไฟฟ้ายันฮียังใช้ชื่อเดิม

เขื่อนเปิดใช้ 2507 แต่กว่าน้ำจะค่อยๆ เติมขึ้นเต็มใช้เวลาอีก 4-5 ปี ระหว่างนั้นก็มีปรากฏการณ์ที่แต่ละฝ่ายแต่ละเจตนาก็ "ทิ้งทวน" กันก่อนน้ำจะท่วมหมด พวกนิยมล่องแพล่องแก่งก็ยกโขยงท่องเที่ยวล่องแก่งน้ำปิงกันเป็นครั้งสุดท้าย เฉพาะเรื่องล่องแก่งเอากลับมาเขียนได้สนุกแน่ๆ เพราะสายตาของชาวเราพ.ศ.นี้กับชาวนิยมไพรสมัยพ.ศ.โน้นเมื่อ 50 ปีก่อนไม่เหมือนกัน เขาล่องแก่งกันทีเป็น 10 วัน แล้วก็มีแต่พวกชาวกรุงอันวิไลที่ต้องขึ้นรถไฟมาเหนือ จัดเตรียมข้าวของไปเที่ยวป่าเอิกเกริก บางคณะที่อำมาตย์ๆ หน่อย เอาหนังกลางแปลงไปฉาย มีหน่วยสวัสดิการข้าวปลาอาหารห้องน้ำห้องส้วมพร้อม

ถ้านึกภาพไม่ออกมันยังไง...ลองนึกถึง มรว.ดาริน วราฤทธิ์ เตรียมข้าวของไปเดินป่าหนองน้ำแห้งของรพินทร์ ไพรวัลย์กันดู (ฮาๆ คนรุ่นใหมก็ไม่รู้จักดาริน วราฤทธิ์เสียแล้ว)

พวกที่บ้าสมบัติก็ใช้เรือหางยาวล่องขึ้นลงเก็บเอาทรัพย์สมบัติตามวัดวา หรือตามศาลศาลาสาธารณะที่จะจม มันมีชาวบ้านที่รู้ไปขุดไว้ก่อนก็มี แล้วก็พวกนี้ไปซื้อมาเก็บ

พวกที่ตามลายแทงโบราณรีบไปขุดหาก็มี เจออีกต่างหาก!! เพราะทางน้ำเส้นนี้เป็นทางหลักของการคมนาคมเชื่อมเมืองเหนือกับที่ราบภาคกลางมาแต่ยุคพระนางจามเทวี แห่งหริภุญไชยเดินทางจากละโว้มาเลย 1400 กว่าปีมาแล้วนะครับนั่น

ผมกำลังชั่งใจ จะใช้เวลาช่วงเช้าค่อยๆ เล่านิทานเรื่องเขื่อนวันละตอนสองตอน แล้วจะเอาเวลาหลังจากนั้นไปเร่งทำงานที่ค้างไว้ คงจะไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ หรือตามข่าวสารทันโลกอะไรเหมือนที่เคยเป็น

เอ....แบบนี้จะดีไหม?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น