วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2557

Aryan Civil War / Mahabharata Code #3







Aryan Civil War / Mahabharata Code

Chapter 3: “กบี่ธุช”ของอรชุน มร.คอนเน็คชั่นของอารยันอำนาจใหม่



*** “กบี่ธุช” บนรถ...ธงลิงก็คือตราหนุมาน***


อรชุนมีอาวุธสำคัญคือคันธนูคานฑีวะ หรือ คาณฑีพ ได้มาจากพระพรหมน่าจะร้ายแรงประมาณเอ็ม 79 ยิงศรทีละพันลูก ปล่อยออกทีเสียงบึ้ม ดังไปถึงสวรรค์อันนี้มหากาพย์พรรณนาไว้

อรชุนนี่แหละที่เป็นโจ๊กเกอร์ตัวเดินเรื่องของฝ่ายปาณฑพ ระหว่างที่แกต้องออกจากเมืองไปเดินป่าเพราะผิดเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ระหว่างพี่น้อง ตอนที่ออกผจญภัยนี่แหละที่อรชุนไปสร้างคอนเน็คชั่นกับผู้มีอำนาจไปทั่วตั้งแต่บนสวรรค์ยันกลุ่มก๊กพื้นเมืองต่างๆ

เตรียมทำสงครามกลางเมืองกันตั้งแต่บัดโน้น ไม่ใช่ว่าจู่ๆ สงครามก็เกิดเสียที่ไหน

อรชุนเป็นคนที่มีเส้น เป็นลูกของพระอินทร์ ไปได้ธนูพระพรหม ไปได้รถศึกพระอัคนี มีพระนารายณ์อวตารมาช่วย ตีความว่าพลังอำนาจอื่นๆ ในสังคมอินเดียยุคนั้นโดยเฉพาะสถาบันศาสนาพราหมณ์หนุนหลัง เท่านั้นยังไม่พอชนพื้นเมืองก็ร่วมด้วย ดูได้จากธงรูปลิงนั่นเอง

พระอัคนีให้รถศึกเทียมม้าสี่ตัวติดธงลิง “กบี่ธุช” บนรถ...ธงลิงก็คือตราหนุมาน กบี่ แปลว่า ลิง ส่วน ธุช แปลว่าธง / มาจากธวัช ภาษาอังกฤษเขียนว่า Kapi Dhawaj คนอินเดียวาดภาพอรชุนบนรถศึกก็ต้องวาดธงหนุมานบนรถไว้ด้วย เมื่อออกศึกใครที่เห็นธงหนุมานปรากฏขึ้นแสดงว่าอรชุนมาแล้ว

รถศึกมีม้าเทียมสี่ตัว เป็นอาวุธทรงพลังในยุคนั้นคือเมื่อราวสามพันปีก่อน ฝรั่งเรียก Chariot แต่อินเดียเรียก “รถ” เรียกรถจริงๆ ครับ ( Ratha Sanskrit rátha ) แล้วศัพท์ๆ นี้ก็แพร่ออกไปถึงชวา เขมร ไทย เพราะเมื่อก่อนไม่เคยมีรถ เขมรเรียก “ระแทะ” ไทยเราก็เอามาใช้ เอามาทั้งระแทะจากเขมรและทั้งคำว่ารถจากสันสกฤต

อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวคำว่า “รถ” นี่มันยิ่งใหญ่มาก คนธรรมดาไม่มีหรอก มีแต่อีลีตแล้วรถยังหมายถึงยุทโธปกรณ์หนักเหมือนรถถัง จึงเป็นคำสำคัญเอามาประกอบชื่อให้ดูยิ่งใหญ่เช่น ทศรถ แปลว่ารถทั้งสิบ/ เอกาทศรถหมายถึงรถสิบเอ็ดคัน (ส่วนบัณรสไม่เกี่ยวอันนี้คนละความหมาย)

เจ้ารถศึกแบบที่มหาภารตะใช้รบกันมาหมดสมัยในยุคหลังจากนั้นไม่นานเพราะมันใช้ได้ดีเฉพาะพื้นที่ราบกว้างใหญ่ ไม่คล่องตัว แต่อย่างไรก็ตามในยุคมหาภารตะต้องมีรถศึก เจ้ารถศึกมาเกี่ยวกับสงครามหลายฉากตอนโดยเฉพาะตอนลูกชายอรชุนชื่ออภิมันยุถูกรุมฆ่าตายก่อนจะตายก็ใช้ล้อรถศึกนี่แหละชูขึ้นเพื่อสู้กับลุงๆ ฝ่ายเการพ

ตีความตามท้องเรื่อง ธงลิงติดรถศึก ก็คือกำลังอำนาจพันธมิตรในการรบ ก็เหมือนรามายณะนั่นล่ะ...ลิงเป็นตัวแทนของคนพื้นเมืองที่มาร่วมในขบวนทัพของอารยันฝ่ายปาณฑพ เพราะการรบกันกลางเมืองเป็น Aryan Civil War ครั้งใหญ่ระดมกันมาสองขั้วฆ่าฟันกันตายเรียบเหลือกันอยู่ไม่มาก ขั้วอำนาจอารยันย่อมต้องเกณฑ์กวาดต้อนชนพื้นเมืองทั้งหลายมารบด้วย

การตีความเหตุที่มาของสงครามกลางเมืองอารยันในครั้งนั้นเป็นมายังไง เนื้อความในมหากาพย์กับประวัติศาสตร์ของจริงอันไหนสอดคล้องกันจะว่าในตอนต่อไป แต่ตอนนี้ขอกล่าวเรื่อง “ธงกบี่” ให้จบความ

ธรรมเนียมแถวบ้านเรารับคติเอาธงที่เป็นพร๊อพในการยกทัพ/ยกพลมาประดับไว้นานแล้ว ภาพสลักที่นครวัดก็มี แต่ขบวนสุริยะวรมันที่ 2 ไม่ใช้ผ้า เขาแกะเป็นรูปลิงบนยอดเสาไว้เลย ส่วนวรรณกรรมผู้ชนะสิบทิศก็ตั้งชื่อ มยุรธุช ให้กับจะเด็ด ส่วนตาลธวัชเป็นธงรูปหม้อตาลของตะคะญี (เอ๊ะหรือว่าของ ตองหวุ่นญี)

กล่าวถึงอรชุน นึกขึ้นได้ว่าเมื่อปี 2549 ตอนพันธมิตรยกทัพรอบแรก คุณคำนูณ สิทธิสมาน วางแผนจะตั้งพรรคเทียนแห่งธรรม ใช้โลโก้ “อรชุนน้าวธนู” และคติประจำพรรคมาจากสร้อยความสำคัญในคำภีร์ภควัทคีตา ยโต ธรฺมสุตโต ชยะ” แปลว่า ที่ใดมีธรรม ที่นั่นมีชัย เอามาใช้ แต่ยังไงไม่รู้แผนนี้ไม่ได้งัดออกมาใช้ ไม่งั้นอาจจะมี “อรชุนลิ้ม” น้าวศรบันทึกไว้สักฉาก







แต่ก็นั่นเอง...ช่างบังเอิญเหลือเชื่อ...ก่อนชุมนุมใหญ่รอบแรกที่ลานพระรูป คุณสนธิได้รับจตุคามรามเทพ และ ธงพญาชิงชัย มาใช้ในการนำทัพ ตอนนั้นไปไหนมาไหนมีคนเชิญธงพญาชิงชัย ซึ่งเป็นธงดำมีตราลิง (คล้ายหนุมาน) สี่กรอยู่ตรงกลาง แล้วนักรบศรีวิชัยก็ใช้ตราพญาชิงชัยนี่แหละเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มตัวเอง -- แหมดูไปก็เหมือนกับยุคอรชุนเลยนะที่ไปได้เหล่าวานรหนุมานสิบแปดมงกุฎมาช่วยรบ ส่วนสนธิก็ได้นักรบชาวใต้มาช่วยรบเหมือนกัน









การใช้ “กบี่ธุช” เพื่อเป็นสัญลักษณ์นำทัพทำสงครามที่มีผู้ใหญ่ให้มาในครั้งนั้นบังเอิญตรงกับสัญลักษณ์ธงกบี่ของอรชุนพอดิบพอดี




เอ๊ะ...พูดถึงธงอรชุน ดันเลี้ยวมาจบที่ ธงของสนธิ ได้ยังไงเนี้ยะ




ตอนหน้า (ถ้าต้องการต่อ) จะพยายามสรุปว่า สงครามกลางเมืองของอารยัน ที่ปรากฏในมหาภารตะนั้นมันเป็นจะใด.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น