Case Study อนุมัติชิงเผาป่าท่ามกลางฝุ่นหนาปลายมีนาคม

ผลกระทบการชิงเผาในป่า ต่างจากการเผาในพื้นที่เกษตร สองอย่างนี้ห่างกันลิบลับ
ในเมื่อผลกระทบสูงมาก ดังนั้นต้องไม่ใช้มาตรการแบบเดียวกัน การเผาที่เกษตร 3 ไร่ ย่อมต่างจาก เผาป่า 300 ไร่ ใช่หรือไม่
ระบบการบริหารจัดการเชื้อเพลิงแบบที่เคยใช้ เปิดให้ขอล่วงหน้าปุบปับผ่านแอพ และอนุมัติได้ทันที สำหรับพื้นที่เกษตรมันทำได้ แต่การชิงเผาในป่า มันต้องมีขั้นตอนกระบวนการมากกว่านั้นตามหลัก prescribe burning คือการเตรียมพื้นที่ ทำแนวกัน เตรียมคนเฝ้าดับ
และที่สำคัญที่สุดคือ ผ่านความเห็นร่วมกัน จนท.ชุมชน และผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งที่ผ่านๆ มา แทบไม่มีขั้นตอนใดๆ ให้ผู้รับผลกระทบปลายลมได้รับรู้
การชิงเผาในป่าที่จำเป็นจริงๆ จึงควรต้องเปิดเผยล่วงหน้าให้ชุมชนและผู้รับผลกระทบรู้ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน ให้ได้เตรียมตัว
มีคนแย้งว่า มันจะผิดกฎหมายนะ ไปเปิดเผยข้อมูลบุคคล PDPA !! ไม่หรอกนะ.. ป่าน่ะเป็นป่าของรัฐ เป็นของสาธารณะร่วมกัน ป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ ป่าชุมชน ล้วนแต่เป็นทรัพยากรร่วม การทำอะไรในพื้นที่นี้ต้องเปิดเผยให้สาธารณะรู้ การปกปิดต่างหากที่ต้องเป็นความผิด

ระบบชิงเผาที่จังหวัดเชียงใหม่ปฏิบัติมา 4 ปี ในนามระบบบริหารจัดการเชื้อเพลิง fireD แนวคิดดี หลักการดี แต่ปฏิบัติยังมีช่องโหว่
ช่องโหว่ที่สำคัญที่สุด คือ เพิกเฉยกับผลกระทบประชาชน และไม่คำนึงถึงสิทธิผู้หายใจในอากาศ !!!
การออกแบบขั้นตอน ขออนุมัติมีเพียง ผู้ต้องการเผา กับ ผู้อนุมัติ และยังเปิดให้ การเผาเกษตร กับ เผาป่า เข้ามาได้ในขั้นตอนแบบเดียวกัน
อย่างที่บอก ว่าการเผาป่ามีผลกระทบสูงและต้องมีขั้นตอนก่อน/ระหว่าง/และหลัง ที่ละเอียดกว่า
การอนุมัติต้องดูผลกระทบ ระดับปริมาณฝุ่นทิศทางและแนวโน้มลมฟ้าอากาศ เพื่อบรรเทาผลกระทบน้อยสุด
และต้องดูเหตุผลความจำเป็นของการขออนุมัติ มันใช่ ความจำเป็นจริงๆ หรือไม่
ระบบชิงเผาของเชียงใหม่ มีแต่แอพ fireD ไม่มีระบบบริหารจัดการคู่ขนาน ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะผ่านศูนย์กลางสื่อสารเป็นทางการ มีแต่ตัวเลขสรุปหน้าจอมือถือ
และเมื่อมีคนร้องขอค่อยส่งตารางการอนุมัติรายวันให้กับผู้สนใจ ซึ่งนี่เป็นข้อมูลไม่เป็นทางการ ให้เฉพาะผู้สนใจในวงไลน์ ไม่ใช่ข้อมูลเปิดสาธารณะที่เป็น open data ดังนั้นจึงไปไม่ถึง ประชาชนกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบใต้ลมจริงๆ

กรณีศึกษา : การอนุมัติชิงเผาป่าใกล้ชุมชนที่บ้านปง หางดง ของเชียงใหม่ เมื่อ 27 มีนาคม 2567 ให้เผาคราเดียวกัน 3 แปลง 100+150+120 ไร่ พื้นที่เผาขนาดนี้ เทียบกับ กว้างคูณยาวด้านละ 800 เมตร
สถานการณ์ในวันนั้น ค่าฝุ่นเชียงใหม่เกินมาตรฐานต่อเนื่อง และที่สำคัญคือ ลมเริ่มพัดเฉียงจากตะวันตก/ใต้ คือพัดจากจุดที่เผาเข้าชุมชนเขตเมืองที่คนหนาแน่น
ผลก็คือ วันที่ 28 มีนาคม ค่าฝุ่นในเมืองทะลุ 110 มคก./ลบ.ม. กรุงเทพธุรกิจเอาไปรายงานเป็นข่าวถึงความผิดปกติ
การเผาที่นั่นอาจจะมีความจำเป็นสูงสุดจริง ๆ แต่จุดอ่อนคือ ไม่มีการบอกกล่าวเหตุผลให้ผู้รับผลกระทบทราบ (และยอมรับในความจำเป็น)
มีแต่รายชื่อผู้ขออนุมัติ ซึ่งเป็น จนท. ท่านไม่ได้ผิดอะไร ท่านขอตามระบบ และนี่เป็นเรื่องที่ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ จะมีบกพร่องของระบบคือ ไม่แสดงเหตุผลการขอเผาให้สาธารณะรับรู้ ทำไมต้องเผา 370 ไร่ ในปลายเดือนมีนาคม ต้นลมเข้าเมือง
และนับจากนี้ ใครขอเผาในป่าของรัฐ ป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ ป่าชุมชน ฯลฯ ต้องเปิดให้สาธารณะรับทราบ ทั้งผู้ขอเผา การเตรียมพร้อม เงื่อนไขอนุมัติเช่น ต้องดับจบก่อนค่ำ และ ชื่อผู้อนุมัติ ให้ทราบทั่วกัน
ไม่เพียงเท่านั้น ผู้อนุมัติ/คณะที่อนุมัติ ก็ต้องเปิดเผยตัวตน ว่ามีเหตุผลพิจารณาแล้วเห็นชอบอย่างไร ทำไมให้เผาในวันนั้น เพราะมันเป็นสิทธิในอากาศ ที่ทั้งรัฐธรรมนูญและกฎหมายอากาศสะอาด(ที่กำลังจะออก) รับรองไว้ เป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องบอกกล่าวกรณีอนุมัติสิ่งใดที่จะเกิดผลกระทบ
กรณีศึกษานี้ บอกให้รู้ว่า เชียงใหม่ต้องปรับปรุง ปิดจุดอ่อนตรงไหนเช่นไร
การเปิดวางแบข้อมูลเหตุผลต่างๆ สังคมจะได้เรียนรู้และเห็นพ้องต้องกัน ว่านี่เป็นสิ่งจำเป็นต้องทำจริงๆ เรายอมรับผลกระทบได้ หรือในทางกลับกัน จะได้ช่วยกันดูว่า ถ้าเหตุผลแค่นี้ไม่ต้องทำ

มีเรื่องเล่ามากมาย ในการชิงเผาเชียงใหม่ เมื่อปีกลาย
ปลัดอำเภอคนเดียว กดปุ่มให้เผา
ปลัดอำเภอคนเดียว กดปุ่มให้เผา
นายกอบต.คนเดียว สั่งเผาตอนบ่ายสาม ไม่ทำแนวกัน ไม่มีคนเฝ้า ลามไปสามวัน
การบริหารเชื้อเพลิงเป็นแนวคิดที่ดี ที่ยืดหยุ่นเปิดช่องสำหรับการผลิตที่ยังจำเป็นและอยู่ระหว่างการยกระดับ โดยเฉพาะการเผาภาคเกษตร แต่ระบบที่ไม่สมบูรณ์พร้อม รวมถึงการผูกรวมการชิงเผาในป่า เป็นแบบแผนแบบฟอร์มเดียวกับเผาเกษตร ก่อให้เกิดความเดือดร้อน
เล่นกับไฟ ต้องระวัง เพราะมันกระทบผู้คน
เล่นกับไฟ ต้องระวัง เพราะมันกระทบผู้คน
อย่าคิดว่า ทำๆ ไป เรียนรู้ไปค่อยปรับกันไป เพราะมันมีผลเดือดร้อนผู้คน ขนาดนักเรียนแพทย์ฝึกหัด เอาไปรักษาคนเขายังมีระบบตรวจสอบและป้องกันการรักษาผิดพลาดเลย การมอบอำนาจให้ใช้ไฟได้ก็เช่นกัน
ใครอนุมัติก็ไม่รู้...อนุมัติแล้วผิดพลาดก็ไม่สน...ไม่บอก แบบนี้ไม่ได้
#ฝุ่นไฟ68 #ep2
#สถานีฝุ่น
4 มกราคม 2568
โปรดติดตามตอนต่อไป
#สถานีฝุ่น
4 มกราคม 2568
โปรดติดตามตอนต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น