ศัพท์คำว่า "ของขวัญ" เป็นศัพท์ใหม่หลังรัชกาลที่ 5 ประกอบสร้างจากคำไทย 2 คำ ของ+ขวัญ เมื่อสังคมไทยเริ่มรู้ว่า เมื่อถึงเทศกาล หรือวาระที่ควรแจกจ่าย gifts / presents ให้
การฉลองปีใหม่ สยามเราก็เพิ่งมารู้จักเมื่อชนชั้นนำสนใจอารยธรรมฝรั่ง วงสังคมของ เจ้าฟ้ามงกุฎ / เจ้าฟ้าน้อย / สมเด็จเจ้าพระยาบุนนาค มีงานปาร์ตี้แบบฝรั่ง แล้วก็รู้จักส่ง ก๊าด (Card) อวยพร พร้อมกับของกำนัล ในยุคโน้น ยังใช้แค่คำว่า ถวายของ ... เป็นของอะไรก็ว่าไป
ศัพท์ "ของขวัญ" แบบไม่เป็นทางการน่าจะมีแต่ร. 5 แล้ว แต่กำเนิดเป็นทางการลงในราชกิจจาฯ ครั้งแรกในสมัย ร.6
คนไทยช่างสรรหาถ้อยคำที่เหมาะเจาะ เพราะ "ขวัญ" นั้นคือจิต คือใจ คืออะไรที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าอารมณ์เป็นภาวะของจิตวิญญาณของคนผู้นั้น
ของขวัญ คือ "ของ" ที่มอบให้เพื่อส่งเสริมเป็น "ขวัญ" กำลังใจ มีฟีลลิ่งที่ดี
ขวัญ นั้นเป็นคำไท/ไต แท้ๆ ผูกพันกับความเชื่อลัทธิจิตวิญญาณ ที่ยาวนานก่อนที่พุทธจะเข้ามา
ไทดำ ไทลื้อเชียงรุ่ง ไทใหญ่ ลาว ไทอีสาน มีขวัญ ผูกขวัญ เรียกขวัญ ฮ้องขวัญ กันทั้งสิ้น
ลิลิตพระลอ เขาว่าเก่าตั้งแต่อยุธยาตอนต้น แต่นิทานว่าด้วย ขุนลอ นั้นน่าจะนานกว่า... ลิลิตพระลอได้เสริมบาลีสันสกฤตแบบแขกๆ มาใส่ไว้เยอะ แต่ก็ยังมีร่องรอยของไทแท้ๆ ไทเดิมๆ ปู่เจ้า ผีป่า และก็ ขวัญ อยู่ในเรื่องนั้น
คนยุคนี้ไม่ค่อยกระสากับ ขวัญหาย เรียกขวัญ ผูกขวัญ กันแล้ว แต่ก็ยังดีที่มีศัพท์ของขวัญ ที่ยืนยงคงกระพันต่อไปแน่นอน ตราบใดที่เรายังฉลองปีใหม่และจับสลากแลกของขวัญกันทุกปี
----
ป.ล. ปีนี้ได้ของขวัญมาแล้ว 1 ชิ้น เป็นเสื้อกีฬา พระลูกยาซื้อให้ แต่เราเองยังไม่ได้ซื้ออะไรให้ใคร ... ถ้าเปลี่ยนเป็นให้เงินสด เขาจะยินดีมั้ย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น