วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

โอรสพระนเรศวร ฉบับท่านมุ้ยซ่อนปริศนา


#ทฤษฎี ว่าด้วยพระนเรศวรทรงมีโอรส ต่อมาขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าทรงธรรม

วงประวัติศาสตร์ไทยถกเถียงกันมานานแล้วว่า พระนเรศวรทรงมีพระโอรสธิดาหรือไม่ ถ้ามี พระโอรสธิดาเหล่านั้นหายไปไหน หรือเป็นอย่างไรต่อไป? 

เพราะเหมือนว่าเรื่องราวของสายสกุลของพระองค์จะหายไปจากประวัติศาสตร์พร้อมๆ กับการสวรรคตของพระองค์ อย่างไรก็ตามต่อมามีนักประวัติศาสตร์ได้พบร่องรอยจากพงศาวดารฉบับต่างๆ ทั้งไทยและเทศ จึงเชื่อว่ามี

งานที่ศึกษาเรื่องราวของโอรสพระนเรศวรที่ยืนยงยาวนานชิ้นหนึ่งคือบทความชื่อ:  โอรสสมเด็จพระนเรศวร : โดย สมภพ จันทรประภา : แถลงงานประวัติศาสตร์และเอกสารโบราณคดี ปีที่ 6 เล่มที่ 3 เดือน กันยายน 2515

มีผู้ใช้นาม ขุนนางอยุธยา นำมาเผยแพร่ตั้งเป็นกระทู้ในเว็บพันทิป โอรสสมเด็จพระนเรศวร   (คลิกอ่าน)  ได้รับความนิยมมาก โดยได้ตั้งโจทย์ว่าผู้ที่อยู่ในข่ายเป็นโอรสของพระนเรศวรในประวัติศาสตร์ มีอยู่ 4 นาม ก็คือ

1. พระมหาธรรมราชา หรือ พระฝ่ายหน้า
2. พระอินทราชา หรือพระเจ้าทรงธรรม
3. พระศรีศิลป์
4. พระองค์ทอง


ขุนนางอยุธยา จขทก.สรุปตามทฤษฏีของสมภพ จันทรประภาว่า โอรสของพระนเรศวรมีหลายพระองค์ที่มีชื่อในพงศาวดารคือ พระมหาธรรมราชาซึ่งปรากฏนามครั้งยกทัพไปตีเขมร และเมื่อสมเด็จพระเอกาทศรถขึ้นครองราชย์ก็ทรงไปอยู่ทางล้านช้าง  ส่วนที่มีบทบาทในราชสำนักเวลาต่อมาก็คือ พระอินทราชา หรือพระเจ้าทรงธรรม ที่ตามประวัติศาสตร์ทรงผนวชเป็น พระพิมลธรรม 

รายละเอียดของที่มาที่ไปว่าด้วยทฤษฎีพระเจ้าทรงธรรมเป็นโอรสพระนเรศ ที่ต่อมาได้ขึ้นครองราชย์นั้นอ้างอิงพงศาวดารฉบับไหนคู่กับฉบับไหนมายัน ต้องอ่านกันเองนะครับ เพราะงานเขียนบทนี้อิงตามบทวิชาการที่ว่า ทำลิงค์มาแล้ว คลิกตรงนี้ซ้ำก็ได้ จะไม่ขอยกมาซ้ำ เพราะในกระทู้หรือกระทั่งในเว็บไซต์มีหาอ่านมากมายอยู่แล้ว เช่นกระทู้ชื่อ สมเด็จพระนเรศวรทรงมีพระเจ้าลูกเธอ ผู้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ โดย ออกหลวงมงคล เป็นจขทก. นี่ก็น่าอ่าน

เมื่อปีกลายก่อนจะประกาศว่า ท่านมุ้ย จะสร้างตำนานสมเด็จพระนเรศวร ภาคอวสานหงสา ปิดฉากให้สมบูรณ์ กรมศิลปากรได้จัดสัมมนาเรื่องสถานที่สวรรคต ท่านมุ้ยก็มาร่วม ผมได้มีโอกาสยกมือขึ้นถามท่านมุ้ยกลางวงประชุม ...ถามเรื่องโอรสธิดาของพระนเรศวรที่มีทฤษฎีหลากหลายเขาว่ากัน บางทฤษฎีเชื่อว่าหมดสิ้นวงศ์ไปหลังจากพระเอกาทศรถขึ้นครองราชย์ด้วยซ้ำไป อันนี้พูดกันในเชิงวิชาการประวัติศาสตร์ล้วนๆ

ท่านมุ้ยตอบทำนองว่า ท่านเชื่อในทฤษฎีที่เชื้อสายของพระนเรศยังอยู่ต่อ แล้วก็สรุปว่า ท่านโน้มเอียงเชื่อในทฤษฎีสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมครับ ! 

การสัมมนาวิชาการก็เรื่องหนึ่ง จนกระทั่งได้มาดูหนังตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ อวสานหงสา

แล้วผมก็พบว่า ท่านมุ้ยได้ซ่อนความตรงที่ว่านี้เอาไว้ในบทหนังด้วย ฉากจบขณะที่องค์ดำกำลังประชวรหนักที่เมืองหาง ทรงเพ้อถึงมณีจันทร์ ในภาพยนตร์เป็นฉากสั่งเสียอำลา มณีจันทร์ทูลว่าจะเลี้ยงดูโอรส แล้วจะให้บวช  ส่วนประวัติศาสตร์จริงน่ะ มีขรัวมณีจันทร์ ชายาม่ายออกบวชด้วย ส่วนเป็นโอรสไม่ปรากฏในพงศาวดารเป๊ะๆ ต้องตีความตามที่วงวิชาการเขาถกแถลงกันมาแต่ครั้งกระโน้นว่าออกบวชจนเป็นพระพิมลธรรม ต่อมาปราบดาเป็นพระเจ้าทรงธรรม

เสียดายที่ผมจำรายละเอียดสคริปต์ตรงนั้นเป๊ะๆ ไม่ได้ ในความจำ...เอ เหมือนจะซ่อนคำว่าเป็นธรรมเนียม/หรือขนบของผู้ที่จะขึ้นมาใหม่ (หมายถึงพระองค์ขาว) ที่จะดำเนินการกับเชื้อสายของกษัตริย์ก่อนหน้าแบบไหนด้วย

แต่ที่จำได้แม่นก็คือโค้ดคำว่า "บวช" ! 

พอได้ยินคำๆ นี้ในบทภาพยนตร์ฉากสั่งเสียผมนึกถึงข้อสันนิษฐานของท่านมุ้ยในวงสัมมนา แล้วก็นึกถึง พระพิมลธรรมผุดขึ้นมาทันใด.



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น