ปฏิบัติการ IO ของขบวนการกู้ชาติไทใหญ่ ผ่านหนังสือเหนือแคว้นแดนสยาม
ขยับจะเขียนเรื่องตามรอยพระนเรศวรสวรรคต ทฤษฎีใหม่ที่ท่านมุ้ยและนักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเชื่อคือ "เวียงแหง" ในเชียงใหม่ กับ ทฤษฎีเดิมที่บอกว่าทรงไปสิ้นที่ "เมืองหาง" เขตพม่า ก็พลันนึกถึงหนังสือเล่มนี้
"เหนือแคว้นแดนสยาม" โดย ปราณี ศิริธร ณ พัทลุง นักหนังสือพิมพ์ นักเขียน นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นผู้วายชนม์ไปนานแล้ว หนังสือนี้กล่าวถึงชนกลุ่มต่างๆ ในพม่าและปิดท้ายด้วยประวัติศาสตร์ใกล้ตัวคือการต่อสู้เรียกร้องเอกราชแยกตัวเองจากพม่าของชาวไตหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
เมื่อราวพ.ศ.2500 บวก/ลบ สถานการณ์การเมืองในพม่าคุกรุ่นเพราะพม่า-อูนุ ไม่อยากปฏิบัติตามสนธิสัญญาปางโหลงให้ชนกลุ่มน้อยต่างๆ แยกมาปกครองกันเอง ในที่สุดชาวไต-ไทใหญ่ ก็แยกตัวมาเคลื่อนไหวในนาม "ขบวนการหนุ่มศึกหาญ" ต่อสู้กับพม่า เป็นต้นธารกองกำลังปลดแอกสืบต่อมาถึงเจ้ากอนเจิง-โปโมเฮง ขุนศึกแขนเดียว / ขุนส่า-จาง ซี ฟู จนมาถึง เจ้ายอดศึกในปัจจุบัน
พวกหนุ่มศึกหาญอันมีเจ้าน้อยซอหยั่นต๊ะ และมือขวา อดีตภิกษุอูปันติต๊ะ เจ้าเคอเสอ (เครือเสือ) ใช้เชียงใหม่เป็นฐานประสานงานติดต่อสนับสนุนเพื่อสู้กับพม่า ส่วนฐานที่มั่นหลักของกองกำลังในพม่าก็คือ เมืองหาง
จุดนี้เองที่ตำนานเรื่องเล่าว่าด้วยพระองค์ดำ-พระนเรศวร ที่ชาวไตเคารพบูชาก็เริ่มขึ้นจนมีการจัดทำเหรียญขึ้นมารุ่นแรกราวปี 2500 (+/-) ให้นักรบชาวไตได้บูชาคุ้มครองให้ต่อสู้พม่าได้ชัยชนะ
เรื่องราวของพระสถูปองค์ดำที่ชาวไตกราบไหว้ก่อนสู้กับพม่าก็เริ่มมาจากจุดนี้ และต่อมาทหารพม่าก็เอารถไถไปไถทำลายพระสถูปลงมาไม่เหลือแม้แต่ฐาน พวกไทใหญ่แอบเอาอิฐออกมาส่งมอบให้ทางการไทย ผ่านลุงวิจิตร ไชยวัณณ์ บ.ก.หนังสือพิมพ์คนเมืองที่เชียงใหม่ เรื่องราวและอิฐสถูปเจดีย์จึงถูกส่งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด นิรันดร ชัยนามและแม่ทัพภาคสามฯลฯ
ต่อมาก็มีการจัดสร้างพระสถูปเจดีย์พระนเรศวรองค์ใหม่ที่เมืองงาย อ.เชียงดาว โดยมีการบรรจุอิฐโบราณที่เมืองหางเข้าไปในนั้นด้วย
นี่เป็นเรื่องราวของทฤษฎีความเชื่อแรก เริ่มจากนักประวัติศาสตร์ชาวไทยที่กางแผนที่และพงศาวดารฉบับต่างๆ แล้วก็ชี้ว่า เมืองห้างหลวง ที่พงศาวดารฉบับหนึ่งระบุน่าจะเป็น "เมืองหาง" แล้วก็ได้รับการขานรับจากขบวนการต่อสู้ชาวไตซึ่งบังเอิญเหลือเกินที่มีฐานที่มั่นที่ "เมืองหาง" พอดี
ข้อสันนิษฐานในกระดาษ จึงกลายมาเป็นอิฐก้อนที่สัมผัสได้ตลอดถึงความเชื่อศรัทธาของนักรบชาวไตต่อเจ้าฟ้าองค์ดำผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำศึกชนะพม่ามาโดยตลอด
ผมเอาหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาโชว์ให้ดู เพราะเชื่อว่า ผู้ที่ให้ข้อมูลลุงปราณีเขียนเรื่องราวของชนกลุ่มน้อยในพม่าและเรื่องของหนุ่มศึกหาญ ก็คือ เจ้าน้อยซอหยั่นต๊ะ กับเจ้าเคอเสอ - อูปันติต๊ะ
พูดแบบภาษาสมัยใหม่ หนังสือเล่มนี้เป็นปฏิบัติการ IO - Information Operation ของขบวนการกู้ชาติไทใหญ่นั่นเอง เพราะมีเนื้อหาเล่าเรื่องชนเผ่าต่างๆ ในพม่าโดยละเอียด เล่าเรื่องขบวนการกู้ชาติและต่อสู้่กับพม่า ใครเป็นใคร...ถือว่าทันสมัยล้วงลึกในยุคนั้น
แม้ลุงปราณีไม่ได้เขียนรายละเอียดไว้ทั้งหมดว่าได้ข้อมูลมาจากใครบ้าง แต่การสนทนาก็ได้เอ่ยถึงชื่อเหล่านี้ บอกว่ามากินนอนทำหนังสือกันที่บ้าน ส่วนผมนั้นเชื่อเช่นนั้นเต็มที่(IO-ไทใหญ่)จากการสัมผัสพูดคุยกับลุงปราณีต่อเนื่องหลายปีก่อนที่ท่านเสียชีวิต ขนาดลุงแกบอกว่าเคอเสอมานั่งนอนอยู่ที่บ้านนี้ (ข้างวัดป่าเป้า) / ถามว่าเขียนแบบนี้ฟันธงแบบละลาบละล้วงไหม ไม่หรอกครับผมเชื่อ วิญญาณของลุงปราณีคงไม่ว่าผมหรอก... ท่านขึ้นเป็นแขกผู้ใหญ่กล่าวอวยพรในงานแต่งงานของผม ก่อนหน้านั้นผมก็ช่วยงานจัดพิมพ์เพ็ชร์ล้านนาขึ้นใหม่ โดยสนพ.ผู้จัดการภาคเหนือ และผมเป็นบ.ก.การพิมพ์ครั้งนั้นด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น